Thursday, March 08, 2007

EASY

ในหลายค่ำคืนของความมัวเมาของท้องฟ้า อากาศหนาวของปี 2549
ท่ามกลางกลิ่นสุราคละคลุ้ง
ในถ้ำค้างคาวแห่งนั้น
ภาพมุมกว้าง...มองเห็นเพียงโขดหินสลับทางเดินแคบๆ เต็มไปด้วยน้ำชื้นแฉะ
มีน้ำหยดลงมาเป็นระยะ พอช่วยให้บรรยากาศไม่เงียบเหงา
แสงเทียนส่องไปที่ใบหน้าของ 2 จอมยุทธขี้เมา
แห่งเทือกเขากังสดาล
กล้องซูมไปที่ใบหน้าของจอมยุทธทั้งสองคน
ขณะกำลังร่ำสุราแกล้มถั่วลิสงคั่ว
ใบหน้าบ่งบอกถึงความมุ่งมั่น แม้มีรอยเหี่ยวย่น
รอบๆบริเวณปราศจากค้างคาวตัวใดๆ ที่มิอาจหาญมาหลบนอน
เพราะทนความบ้าคลั่งของท่านจอมยุทธไม่ไหว
บัดซบ...! มันไม่ได้หลับได้นอน นับตั้งแต่ 2 จอมยุทธยึดที่มั่นแห่งนี้เป็นที่ควงแก้วเหล้าแทนกระบี่ ที่บัดนี้ลืมไว้ที่ปากทางเข้าถ้ำเมื่อครั้งเมาขาพันกันเป็นเลขแปด (8)

จอมยุทธกระบี่คู่ (ต๊ะ) และ จอมยุทธกระบี่เมา (โจ้)
ผู้ไม่เคยห่างแก้วเหล้าเกิน 1 ฟุต และไม่เกิน 3 วัน
บางครั้งระบายความอัดอั้นของแอลกอฮอล์ที่คั่งค้างในกระแสโลหิต หลังดวลเพลงดื่มกันได้ที่ โดยลากกันไปที่ห้องซ้อมดนตรีขนาด 4 x 4 เมตร ของผู้เฒ่าเตียบ่อกี้ดำ (น้าดำ)
แห่งขุนเขามอดินแดงผู้ที่บางครั้งงัวเงียเพราะโดนขอร้องแกมบังคับ
แต่ด้วยความเมตตากรุณาได้มาเปิดห้องซ้อมต้อนรับการมาเยือนของ 2 จอมยุทธผู้เร่ร่อนจากแดนไกล
พร้อมด้วยความอนุเคราะห์ที่สูงล้นด้วยฝีมือกลองชั้นครู
คำแนะนำดีๆในการพัฒนาฝีมือการเล่น ที่ 2 จอมยุทธถือว่ามีค่ากว่าสิ่งใดๆทั้งหมด
และในบางครั้ง 2 จอมยุทธเคอะเขินกับความอ่อนด้อยทางประสบการณ์ทางดนตรี
แต่ท่านผู้เฒ่าก็มิได้ถือสาแต่อย่างใด และยังคงความจัดเจนในลายกลองมิได้ขาด

"ซ้อมบ่อยๆ...เดี๋ยวก็เก่งเอง"
เรา....2 จอมยุทธ รู้สึกซาบซึ้ง ทั้งเห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำสั่งสอนของท่านผู้เฒ่าเตียบ่อกี้ผู้นี้
เพราะได้ลองปฏิบัติดูแล้ว และได้ผลซะด้วยสิ
และอยากนำคัมภีร์ที่มีเพียงประโยคสั้นๆ นี้ติดตัวไปทุกที่ที่พเนจรไป
พร้อมทั้งประกาศบอกผู้สนใจในการเล่นดนตรีให้นำไปปฏิบัติ

พวกเรา 2 จอมยุทธแวะเวียนมาที่ห้องซ้อมบ่อยครั้ง เท่าที่สตังค์ในกระเป๋าจะอำนวย
และรวมทั้งเมื่ออดทนต่อเสียงเรียกร้องของต่อมดนตรีใต้สมองไม่ไหว
และทุกครั้งเราพบว่า วรยุทธยังล้าหลังนัก เมื่อเทียบกับจอมยุทธท่านอื่นๆในยุทธภพ
เราคึกคัก อิจฉา และเจ็บใจตัวเองในทุกครั้ง
เมื่อเห็นว่าจอมยุทธท่านอื่นๆ มีวรยุทธล้ำเลิศยิ่งกว่า
และอยากฝึกปรือฝีมือเพลงกระบี่ของเราให้ชำนาญยิ่งขึ้นไปอีก...

กระทั่งเมื่อขุนพลทวนคู่ (โป้ง) และจอมโจรชอลิ้วเฮียง (ต้น)
ได้หลงทางมาจากเทือกเขารีไซเคิลอันไกลโพ้น
โดยบังเอิญที่ขุนพลทวนคู่ได้กวัดไกวทวนให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของจอมยุทธกระบี่คู่ และจอมยุทธกระบี่เมาจึงได้ชักชวนให้เขาร่วมวงที่ว่างเปล่าแม้จุดหมาย
นัยว่าไร้เหตุผลกลศึกใดๆ จะอธิบายและกล่าวอ้าง
หากแต่มีเพียงความรู้สึกเดียวกันที่อธิบายไม่ได้ แต่รับรู้ได้ด้วยวิญญาณ และมโนจริต
และจนปัญญาที่จะเขียนประดับไว้ ณ ที่นี้
(เพราะมันไม่มีอะไรนอกจากความรู้สึก...จับต้องไม่ได้...แต่รำลึกได้)
และอาจจะด้วยเหตุผลใดก็สุดจะพรรณา
เมื่อจอมโจรชอลิ้วเฮียงได้สะบัดพัดหลุดมือ
พร้อมกับเปลี่ยนมาควงกีตาร์วาดฝันในวิมานกับหญิงงามแห่งคุ้มดงเต่าหอม
สุดท้ายติดกับดักของ 2 จอมยุทธผู้คอยจับจ้องและหมายตาไว้อยู่แล้ว
จอมโจรชอลิ้วเฮียงผู้นี้ได้สลัดคราบจอมใจออกไปสิ้น
เหลือไว้เพียงแววตาที่ยังคงมีไฟแห่งราคะกระพือปีกอยู่ไหวๆ ในบางคืนที่จันทร์ข้างขึ้น
(และอารมณ์ลุ่มลึกของจอมโจรชอลิ้วเฮียงก็ขึ้นตามไปด้วย)
เพื่อค้นหากระต่ายที่เร้นกายในดวงจันทร์ใบนั้น
และได้พบว่ากระต่ายงามนั้นหาได้ใช่สิ่งใดไม่
หากแต่เป็นเสียงดนตรีที่ก้องอยู่ในวิมาน ทั้งยามหลับ ยามตื่น

เวลาผ่านไป สรรพสิ่งเคลื่อนไหว ลมหนาว-มกรา-มาเยือน การปรากฎกายของจอมยุทธหนุ่มร่างโย่ง ผิวเข้มท่ามกลางกระแสวายุหักโหม ผ้าคลุมร่างโบกสะบัด แดดสี่อุ่นเบื้องหลัง จอมยุทธป๊อปปี้...ผู้มากด้วยปัญหาในชีวิต และคำถามในใจมากมาย พร้อมๆกับความสามารถทางการบรรเลงดนตรีเปียโนของเขา จอมยุทธผู้นี้ใช้เวลาเดินทางค้นหาตัวตนของเขาเองมานานแสนนาน กระทั่งได้พบพานจอมยุทธโจ้ ผู้ที่นอกจากไม่เคยแม้จะชี้ทางสว่าง หากกลับชักชวนเขาเข้าร่วมคาราวาน EASY พเนจรอีกต่างหาก จะด้วยความสับสน หรือประสงค์ใดยากจะคาดเดา สุดท้ายจอมยุทธป๊อปปี้ก็ได้เข้าร่วมกับ EASY อีกคำรบ โดยยังไม่ลืมที่จะค้นหาสัจธรรมในชีวิตดังเดิม อันเป็นปณิธานของเขามาแต่ออกจากขุนเขาสวัสดีแล้ว...!!!

และเมื่อถึงคราออกศึกครั้งแรกของ EASY พวกเราทั้งหลายได้พบกับจอมยุทธน้อย ผู้กำลังแสวงหาประสปการณ์ทั้งทางดนตรี และทางชีวิต จอมยุทธต๋องน้อย ผู้อ่อนเยาว์ด้วยวัย...หากแต่มากด้วยฝีมือ เขาถือกระบี่หยกเป็นอาวุธ ไม่มีผู้ใดทราบว่าจอมยุทธผู้นี้เดินทางมาจากแดนใด รู้แต่ว่าเขาเป็นศิษย์ผู้น้องของจอมยุทธต้นอีกคน ความที่มีความเจนจัดทางดนตรี ประกอบกับความนอบน้อมถ่อมตนของเขาได้เปิดทางให้พวกเรา EASY ยินดีรับเข้าเป็นศิษย์ร่วมสำนักได้ไม่ยากเย็น การซ้อมรบเพื่อออกศึกครั้งแรกของพวกเรานั้นได้รับความสนับสนุนจากจอมยุทธต๋องน้อยมากมายนัก... ด้วยเพราะจอมยุทธผู้นี้เคยเป็นเจ้าสำนักถ้ำดนตรีแห่งคณะสาธารณสุขศาสตร์มาก่อนนั่นเอง

พวกเรา...EASY กำลังเดินหายเข้าไปในห้องต่างๆ ของบรรทัดห้าเส้น พร้อมด้วยกุญแจซอลตัวใหญ่ ตัวโน้ตดำ ขาว เขบ็ด และ (ดูเหมือน) จะกำลังก้าวเดินได้อย่างคล่องแคล่วขึ้น พร้อมๆ กับจังหวะหยุดที่เริ่มกระชับมากขึ้น หรือว่านี่เป็นความรู้สึกที่เราอาจจะรู้สึกไปเองก็ได้ บางทีการค้นหาคงยังไม่สิ้นสุด และไม่อาจสรุปอะไรได้ ตราบที่วรยุทธยังไม่แก่กล้าพอ

EASY จึงก่อตัวขึ้น... พวกเราเดินกอดคอกันเข้าไปในห้องซ้อม พร้อมๆ กับรอยยิ้มต้อนรับของท่านผู้เฒ่าเตียบ่อกี้แห่งขุนเขามอดินแดงอันลึกลับ น้าดำ...ผู้เปี่ยมด้วยเมตตา บรรดาขุนพล EASY จะเดินไปไกลแค่ไหนเราไม่อาจคาดคิด รู้แต่เพียงว่า เราเป็นก้อนผลึกแห่งความเป็นพี่น้อง ในการโอบล้อมของบรรยากาศของเสียงดนตรี และความจริงใจ ... เท่านี้ก็พอแล้ว

ไม่ได้ update blog ซะนาน เพราะมัวไปซุ่มซ้อมดนตรีอยู่ แถมยังทำเว็บวง EASY ไว้ด้วย แวะชมได้ที่ http://easy.zapto.org