Sunday, August 31, 2008

PH Soccer Leauge 2008

เมื่อสังขารเริ่มโรยรา ของเหล่าบรรดาบัณฑิตโชว์


จบลงไปแล้วสำหรับปีนี้ กับ PH Soccer League 2008 ของเหล่าบัณฑิตโชว์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่เก๋าที่สุดเนื่องจากประกอบด้วยผู้เล่นที่เป็นที่สุดของทุกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นพี่กาญต์ PH 12 ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่เริ่มมีฟุตบอลประเพณีมาตั้งแต่ปี 2539 (ถ้าจำไม่ผิด) ด้วยวัยถึง 36 ปี ผู้ซึ่งเป็นทั้งกุนซือ ผู้เล่น และผู้สนับสนุนในคนๆเดียวกัน โจ้ PH 14 (ผมเองแหละ...คนเขียนบันทึก) กองหลัง และประสานงาน ปีเตอร์ 17 กลางฮาร์ดคอร์ และฝ่ายเสบียงบินตรงจากฝั่งลาว คนนี้พลังงานเยอะมาก ลงสนามครั้งใดเป็นต้องทำให้คู่ต่อสู้ขยาดและหยะแหยงทุกครั้ง (เอ๊ะ...ยังไง อิๆ...) ต้น, เม้ง 17 กลางและศูนย์หน้าจอมพริ้ว

รวมทั้งวัช, ริกกี้, เจี๊ยบ ซึ่งทุกคนสปิริตสูงส่งมากๆ ขอชมเชย ที่สู้อุตส่าห์ขับรถมาตั้งไกลเพื่อมาเข้าร่วมเกมส์ที่เหนื่อยแสนเหนื่อย นี่หากไม่ใช่ด้วยใจรัก+สปิริตแล้วคงเป็นไปไม่ได้ ผมเชื่ออย่างนั้น สำหรับเจี๊ยบแล้วแฟนพึ่งตั้งท้อง ได้ยินว่าตอนแรกอาจจะมาไม่ได้ แต่แล้วเขาก็มาร่วมการแข่งขันได้เช่นเคย

สุริยัน 14 ฝ่ามรสุมชีวิตมาร่วมทีมได้ในปีนี้ในตำแหน่งวิงแบ็คซ้าย และสุดท้าย อ้อย ที่ต้องบอกว่าขอปรบมือให้ดังๆ กับตำแหน่งผู้รักษาประตู (จำเป็น) ครั้งแรกที่ถูกขอให้ทำหน้าที่นี้ ผมก็รู้ว่าเขาหนักใจไม่น้อย



ทีมบัณฑิตโชว์ปีนี้ดูจะเงียบเหงากว่าปีกลายเล็กน้อย เนื่องจากสมาชิกหลายคนต่างติดภาระกิจ ไม่ว่าจะเป็น ชัช, เปิ้ล, แกละ, โอโร่, และพี่ฐา เป็นให้เหตุปีนี้ไร้ซึ่งผู้รักษาประตูจอมหนึบอย่างโอโร่ พี่ฐา และแกละ สำหรับพี่ฐานั้นได้ยินข่าวว่ามีปัญหาสุขภาพ (อย่างแรง) ด้วยอาการติดเชื้อทางกระแสเลือด เป็นที่น่าเป็นห่วงมาก และขอส่งกำลังใจให้พี่ฐารักษาร่างกาย และหายไวๆ ปัญหาแรกเกิดขึ้นแล้ว คือบัณฑิตโชว์ต้องหาประตูสำรอง ซึ่งหาได้ยากกว่าตำแหน่งใดๆ ทั้งหมด สุดท้ายแล้วได้รับอาสาจากผู้หมวดปีเตอร์ และอ้อย สำหรับปีเตอร์นั้นจะรับศึกในนัดที่เจอกับ จบเสย อดีตแชมป์เก่าที่แข่งแกร่งและทางบอลดีที่สุด และนัดต่อๆ ไปคือนัดที่จะเจอกับ โทจัง และ วทบ.1 รับหน้าที่โดย อ้อย ประตูตัวเล็กของเรา สำหรับอ้อยนั้นตลอดเวลาเขาไม่เคยปริปากบ่น (ให้ได้ยิน) เลยตลอดเกมส์ อาจเป็นเพราะว่าเขาอาจแบกรับภาระที่หนักอึ้งอยู่ แต่เขาก็ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างยิ่งเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกคน

วันนี้อากาศร้อนเปรี้ยงปร้าง อาทิตย์ส่องแสงไม่เหน็ดเหนื่อย แต่หาได้แผดเผาหัวใจนักสู้ของเราให้หม่นหมองไปเลย ทุกคนมาพร้อมกันที่สนามกีฬา ร.8 ซึ่งเป็นค่ายทหารอยู่ใกล้ๆ กับม.ข. นี่เอง สนามที่นี่จัดว่าดีกว่าที่สาธิต ม.ข. มาก หลังจากทักทายกันตามอัธยาศัยแล้ว พวกเราได้รับเสื้อ-กางเกง (รวมทั้งชุดผู้รักษาประตู+ถุงมือ) ซึ่งอีกเช่นเคยได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากพี่ชายใจดีของเรา เฮียกานต์ PH 12 ถุงเท้าโดย โจ้ PH 14 ทุกคนรวมตัวกันที่เต๊นข้างสนาม เวลาประมาณ 9.30 น. ไม่นานนักหลังจากนั้นผู้หมวดฮาร์ดคอร์ ปีเตอร์ของเราก็บรรทุกเสบียงกรังมาเต็มคันรถ ประกอบด้วย Red Label ขวดละ 1 ลิตร, 2 ลิตร และ 4.5 ลิตร รวมๆ แล้วประมาณ 30 ลิตร เห็นผู้หมวดบอกว่าขนข้ามฝั่งมาจากลาวโดยสำรองจ่ายไปประมาณ 1.2 หมื่นบาท (นึกในใจว่า...ทำยังไงมันจะเหลือล่ะนี่ 555...!) มีช่วงนึงก่อนวันแข่งขันจะเริ่มเห็นบอกว่าจะเอามาฝากไว้กับผม แต่เปลี่ยนใจเสียก่อนด้วยกลัวว่าผมจะสังหารหมดก่อน คริกๆ คิดได้ก็ดีแล้ว (แต่ความจริงเพราะลูกชายผู้หมวดไม่สบายเลยไม่ได้แวะขอนแก่น)


วางแผนการเล่น

ใกล้เวลาแข่งแล้ว หลังจากที่ถึงเวลาที่เฮียกานต์วางแผนการเล่น พี่เขาอุตส่าห์ทำกระดานสนาม ติดชื่อผู้เล่นทุกคนใส่หมากไว้ นึกไม่ถึงว่าพี่กานต์ตั้งใจมากมาย นักแรกที่เจอกับจบเสยจะให้หมวดปีเตอร์เป็นประตู โจ้ 17 เป็นเซ็นตอร์, เจี๊ยบ แบ็คซ้ายเปลี่ยนกับยัน 14, โจ้ 14 แบ็คขวา, เม้ง ต้น ช่วยกันในแดนกลางและหน้า, ส่วนพี่กานต์อยู่กลางตัวรับ


บัณฑิตย์โชว์ VS จบเสย

น้องๆ จบเสย ดูเหมือนจะพกพาเอาแรงอาฆาตมาเต็มพิกัด เนื่องจากพ่ายแพ้ให้แก่ทีมบัณฑิตโชว์ไป 1-0 ในปีที่แล้ว หลายๆคนยังคาใจอยู่ ดังนั้นปีนี้เกมส์ของน้องๆจึงดูดุเดือดเลือดพล่าน และผลการแข่งขันสำหรับเกมส์นี้ก็ดูเหมือนจะเป็นที่พอใจของน้องจบเสย สังเกตได้จากหลังจากเกมส์จบแล้วไม่เห็นวี่แววของทีมจบเสยอีกเลย สงสัยจะเตรียมการแข่งขันในรอบต่อไปไว้แล้ว ส่วนบัณฑิตโชว์ของเราที่ตอนแรกให้ผู้หมวดปีเตอร์เป็นประตูก็มีอันต้องเปลี่ยนเป็นอ้อย เพราะรูปเกมส์เป็นรองมาก หมวดปีเตอร์ช่วยไล่เกมส์ได้ดีตามสไตล์ Hardcore ของเขา และดูๆ แล้วรูปเกมส์มันออกจะขัดกับความรู้สึกลึกๆ ในใจ และไม่อาจจะระบายออกมาได้เป็นตัวอักษร แดดที่ร้อนเปรี้ยงๆ ทำให้หลายๆคนอ่อนล้า สำหรับพี่กาญต์นั้นต้องเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากขยับขาซ้ายไม่ได้ว่างั้น ทุกคนได้พยายามอย่างเต็มที่แล้วในสถานการณ์แบบนี้ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลังการแข่งขันที่จบลงด้วยสกอร์ที่ไม่อาจเปิดเผยได้ หรืออาจเปิดเผยได้แต่คงต้องเข้ารหัส (Encrypt) ไว้กระมัง (ทำไมทำไมเนี่ย...แหม ! ก้อมัน...แหะๆ) เหอๆ เขียนประโยคนี้แล้วมองดูฟ้าเหงาๆ ยามบ่ายวันที่ 25 ส.ค. ด้วยใจที่ล่องลอย...

จบเกมส์แรก .... พวกเราหลายคนย้อมใจด้วย Red Label 1 ลิตร ที่ถูกงัดออกจากลัง และบรรจงชงโดยโจ้ 17 ซึ่งดูเหมือนเวลานี้เขาได้ค้นพบวิธีชงเหล้าที่แสนง่ายและสะดวกที่สุดสำหรับการดื่มหลายๆ คนก็คราวนี้เอง โดยชงใส่เหยือก แล้วเทใส่ทีละแก้ว กริ๊ง กรึ๊บ...เอื๊อก ! อึกๆ ... ผ่านไป 2-3 แก้ว เมื่ออนูแอลกอฮอล์เริ่มสัมผัสกับขั้วประสาทแล้ว เราเริ่มผ่อนคลายขึ้น และบางคนพร่ำบ่นถึงกิจกรรมในภาคค่ำกันแล้ว โห ...นี่แค่นัดแรกนะนี่...คริกๆ โดยเฉพาะพี่กานต์ที่ดูเหมือนจะยิงคำถามใส่โจ้ 14 ไม่หยุด เฮ้ย...โจ้ ตกลงตอนเย็นไปไหนกันวะ นั่นคงเป็นอารมณ์ของพวกเราหลายๆคนในตอนนั้นด้วย (กระมัง)


ซดส้มตำภาคเที่ยง

หลังจากนั้นในช่วงพักเที่ยงพวกเรายกขบวนไปร้านส้มตำหน้า ร.8 แบบกะจะซดส้มตำให้หมดร้านในคราวเดียว เราไปกันหลายคน โดยมีทีม ทีละแบน ร่วมแจมด้วย นำโดยงอน 16, ดำมี่ 18 แล้วสั่งเป็นชุด ชนิดแม่ค้าตั้งตัวไม่ติดตำแทบไม่ทัน กับข้าวในเที่ยงวันนั้นต้องขอบอกว่า Hot and Spicy Like Hell เผ็ดร้อนเหมือนนรก... (ถ้าหมวดปีเตอร์เขาจะบอกว่า เผ็ดจนแสบ dark (censor)” และประโยคนี้จำได้ว่าเขาพกติดตัวไปถึงภาคค่ำตอนละเลียดเหล้าและสนทนากับน้องๆ สาวเสิร์ฟ)

ผู้หมวดพกพาเอาความเผ็ดร้อนใส่ในคำพูดของเขากลับมาพ่นไฟใส่ในสนามค่าย ร.8 อีกเช่นเคย เนื่องจากบ่ายแล้ว บัณฑิตโชว์รอ โทจัง มาลงสนามแบบรอแล้วรอเล่าก็ไม่มาซักที เล่นเอาหมวดปีเตอร์โวยวาย ส่งเสียงดังไปทั่วสนาม (บางทีอาจดังไปถึงทหารที่ถือ M.16 ซ้อมกันอยู่ในป่า อิๆ...) โทจังน่ะ !...เมื่อไหร่จะลงสนามเสียที รอนานแล้วนะ !!! เดี๋ยวจับแพ้บายเลย....ถ้าสู้ไม่ได้ก็บอกมา...!!!” หรือ โทจัง อย่าเอาเปรียบบัณฑิตโชว์ ซ้อมแต่ในร่ม ออกมาตากแดดบ้าง ฯลฯ หลังจากนั้นไม่นานก็เห็นโทจัง 2-3 คนทยอยลงสนาม ปล่อยให้บัณฑิตโชว์รอเก้ออีกคำรบหนึ่ง...


บัณฑิตโชว์-โทจัง

ตอนแข่งก็ดูเหมือนว่าบัณฑิตโชว์ ไม่ได้เป็นรองเลยซักนิด ถึงแม้โทจังจะมีผู้เล่นที่คล่องแคล่ว อย่างเบอร์ 8 ที่เลี่ยงบอล ลากเลื้อย หลบผู้เล่นของบัณฑิตโชว์จนตาลาย แล้วเปิดบอลให้เบอร์ 13 ทำประตู แต่ผมก็พบว่าจังหวะบอลนั้นยังสูสีกันอยู่ และเราสามารถป้องกันลูกอันตรายได้หลายครั้ง เห็นจะมีแต่ลูกสุดวิสัยเท่านั้นที่ผ่านมือของอ้อยไปได้ (แหะๆ มันก็แหงล่ะ ก็สุดวิสัยนี่นาน เนาะ...) พูดอย่างไม่เกรงใจเลยว่าบัณฑิตโชว์สู้ได้ ส่วนผลการแข่งขันก็คงต้องขออุบไว้อีกเช่นเคย หุๆ

มาถึงจังหวะนี้สังเกตุเห็นหลายๆ คนชักเซื่องซึมและคุยน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นต้น, อ้อย โดยเฉพาะอ้อยนั้นเห็นนั่งเงียบๆ (ปกติเขาก็เงียบๆ อยู่แล้วล่ะ) ผมได้แต่พูดคุยและปลอบใจเขาเบาๆ พลางจิบเหล้าบางๆ ไปด้วย เวลาตอนนี้เกือบๆ บ่าย 3 แล้ว พวกเรานั่งดูเกมส์ของน้อง วทบ.1 ที่จะแข่งกับเราเป็นทีมต่อไป และเห็นได้ชัดว่าน้องๆ เล่นบอลด้วยจังหวะที่เร็วพอควร เป็นที่น่าหนักใจสำหรับพวกเรา ตอนนั้นบริเวณข้างสนามมีกองเชียร์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระเทยมาร้องกรี๊ดๆ ให้พวกเราหันไปมองแบบขัดๆ หู มีจังหวะหนึ่งที่น้องผู้หญิงมายืนร่วมกับกลุ่มน้องกระเทย แล้วโดนหมวดปีเตอร์แซวแบบฮาร์ดคอร์ไปว่า เฮ้ย !... น้องๆ 4 คนน่ะ เป็นกระเทยหมดเลยใช่ไหม ?” เล่นเอาน้องผู้หญิงคนนั้นถึงกับยืนงงงวย อิๆ สม... อยากมาใกล้เต๊นบัณฑิตโชว์นัก ก็ต้องเจอแบบนี้ 555

ในบางครั้งเราต้องหาอะไรมาครายเครียดกัน นี่ถ้าเป็นปีกลายเราจะเต้นพัสร๊อบกัน 2-3 คน เพียงแต่ปีนี้ไม่มีแบบนั้นแล้ว ด้วยอารมณ์มันไม่ไป (ท่าเต้นพัสร็อบหาดูได้จากหนังเรื่อง สำบายดี หลวงพระบาง ตอนนี้พระเอกอนันดานั่งดวดเบียร์ไปหลายขวด มีสาวลาวนั่งด้วย เสียงเจื้อยแจ้ว หน้าตาจิ้มลิ้มแบบลาวๆ)


บัณฑิตโชว์ VS วทบ.1

นัดต่อไปใกล้เริ่มขึ้น ภายใต้ความเชื่อมั่นที่อยากเอาชนะ (บ้างซักครั้ง) พวกเรารวมพลังกันอีกครั้ง บัณฑิตโชว์...สู้ !!!” เพื่อสู้ศึกนัดสุดท้ายของวันนี้ ขุนพลบัณฑิตโชว์วิ่งประจำที่ในตำแหน่งของตนเอง เกมส์ผ่านไปไวเหมือนโกหกและจบลงแบบเปิดเผยสกอร์ไม่ได้ (อีกแล้ว...) หรืออาจต้องเข้ารหัสไว้แบบ CRYPT ผลคือ 1:45COd7MhD1AR6 (คิดว่าคงไม่มีใครสนใจอยากรู้นักหรอก รู้แต่ว่าเป็นสายอักขระ 13 หลัก...ซับซ้อนจัง ปล่อยผมไปเถอะ...คุณผู้อ่าน)

นั่งลง ถอดรองเท้า-ถุงเท้า เหยียดขา ปาดเหงื่อ ดูเหมือนเวลานี้จะเป็นช่วงที่เงียบสงบที่สุด ผมได้ตกลงกับเพื่อนร่วมทีมว่าพวกเราจะไปกินข้าวกันที่ร้าน มิตรภาพลาบก้อย การดื่มกิน... ดูเหมือนตอนนี้จะเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ให้เราทำได้ตามประสาคนชอบการสังสรรค์ หากแต่การสังสรรค์ในค่ำคืนนี้ในอีกความรู้สึกหนึ่งเพื่อต้องการลืมผลการแข่งขันในวันนี้ หรือเพื่อจะสร้างแนวคิดใหม่ของทีม บัณฑิตโชว์ หรือแม้แต่จะเยียวยาความรู้สึกลึกๆ ของวันนี้ ก็แล้วแต่จะคิดกันไป ส่วนหนึ่งผมคิดว่าอย่างนั้น และจากการพูดคุยกับกุนซือเฮียกานต์และเพื่อนสมาชิกในทีม ไม่ว่าจะเป็น โจ้ 17, แกละ, ปีเตอร์, เม้ง, ยัน โดยเฉพาะ โจ้ 17 นั้นเขาเต็มไปด้วยแนวคิดเต็มสมอง และเมื่อเชื่อมประสานกับประสบการณ์และแนวคิดเจนโลกของพี่กานต์ เสริมด้วยความมันส์ในแบบฮาร์ดคอร์ของปีเตอร์ และชั้นเชิงของเม้ง, แกละ รวมทั้งเครื่องปรุงรสเด็ดของผมกับยัน (ที่คุยน้อยลงในตอนเย็น) ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่านำเสนอมาก และน่าจะได้รับการนำไปพิจารณาต่อร่วมกับสมาชิกทีมอีกหลายคน โดยผมจะพยายามรวบรวมให้ได้มากที่สุดเพื่อหาจุดยืนของทีมที่เหมาะสมต่อไป ภายใต้ความดื่มด่ำแห่งค่ำคืนที่เจือด้วยแอลกอฮอล์ไม่รู้ว่าจะเก็บรายละเอียดได้สักแค่ไหน ขอให้ติดตามต่อไป ...

หากยังไม่จุใจ เชิญดูภาพใน picasa นะครับพี่น้องค้าบบบ... กดเลย > http://picasaweb.google.co.th/easyLive3Mar07/PHSoccerLeauge2008

อาลัย "ชูใจ" เพื่อนรัก

ชูใจเป็นสุนัขพันธุ์คอกเกอร์เพศเมียลูกผสมระหว่าง ไท (อเมริกันค๊อกเกอร์) + ดอกรัก (อิงลิชค็อกเกอร์) ที่รูปร่างดี แข็งแรง สนุกสนาน ขี้เล่น ซุกซนเป็นที่สุด ผมชอบพาชูใจไปวิ่งเล่นที่บึงแก่นนครกับเหมียวน้อย ตอนแรกๆ ชูใจจะวิ่งพล่านไปทั่ว ดมหญ้า, ต้นไม้ไปเรื่อย รวมทั้งวิ่งไปเล่นกับสุนัขตัวอื่นๆ ชูใจลุกรี้ลุกรนตลอดเวลา และสนใจใคร่รู้ตามประสา แต่ถ้าเขาเหนื่อยแล้วจะไม่ยอมวิ่งยอมเดินเอาดื้อๆ ลากยังไงก็ไม่อยากไป

ชูใจชอบเล่นลูกบอล เวลาขว้างไปแล้วเขาจะวิ่งไปคาบมาอย่างรวดเร็ว แล้วทำทีเดินกลับมาหาเรา แต่พอเดินเข้ามาใกล้จะถึงกลับแกล้งเดินเบี่ยงออกไป และไม่ยอมคืนลูกบอลให้เราซะงั้น ทำเหมือนจอมขี้โกงเลย

ชูใจชอบวิ่งเล่นรอบๆบ้านและชอบมุดๆดมๆในป่ารกๆหลังบ้าน โชคร้ายที่ในป่ามีงูอาศัยอยู่นั่นเป็นสาเหตุให้ชูใจโดนงูพิษกัดถึงแก่ชีวิต เศร้า...และเสียดายมาก และคิดว่าหากจะเลี้ยงสุนัขอีกต้องดูแลให้ดีกว่านี้...

ขอให้ชูใจจงไปสู่สุขคติเถิด อยากให้วันเวลาดีๆของเรากลับมาอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้จะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ก็ตาม