Sunday, September 02, 2007

บันทึก PH Soccer League 2007 ปีนี้สนุกและประทับใจ

เช้าวันใหม่ 1 ก.ย. 50 ณ.สนามฟุตบอล สาธิตมอดินแดง



อบอุ่นเป็นพิเศษสำหรับงานกีฬา PH Soccer League ปี 50 นี้ โดยเฉพาะทีม "บัณฑิตโชว์" ที่สมาชิกทีมต่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน ณ สนามสาธิตมอดินแดง งานนี้นำโดยพี่กานต์ (13) ผู้เป็นทั้งกุนซือและสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนหลักของทีมอย่างเป็นทางการ ที่ได้หนับหนุนชุดทีม (เสื้อกางเกง) ตามด้วยพี่ฐา (12) ที่เล่นมาทุกปี คร่ำหวอดกับงานกีฬารายการนี้อย่างเหนียวแน่น ผมคันนาวาโจ้ 14 ที่ปีนี้ดอดเข้าร่วมทีอีกที และทำเท่...ด้วยการสนับสนุนถุงเท้า FBT สีขาวด้วยแหละ...(คริกๆ ไม่อยากจะบอกว่ามันจับพลัดจับผลู แต่แมนมากกกกกกกกกก !!! ) และปีนี้คราคร่ำไปด้วยน้องๆ รุ่น 17 ที่รวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น วันนี้อากาศดี แดดไม่ร้อนเกินไป ไม่เหมือนปีกลายที่ฝนตกตอนตลอดเลย

น้องรุ่น 17 เหนียวแน่นมากกกกก !

รายชื่อรุ่น 17 ที่มาร่วมทีมบัณฑิตโชว์ ประกอบด้วย ต้น หัวหอกอัจฉริยะ, โอโร่ มีปัญหาตอนเดินทางเล็กน้อย เรื่องเบรครถ แต่งานนี้ยังไงก็เบรคไม่อยู่ซะแล้ว !, ชัช กองหลังตัวอย่างสูง, เจี๊ยบ ปีนี้เค้นฟอร์มได้สุดยอดเลยนะ, โจ้ เล่นเซนเตอร์ได้แน่นจริงๆ, หมวดปีเตอร์ ผู้หมวดจอมพลัง ตอนแรกเดินเข้าในสนามผมแทบตกใจ นึกว่าอุ้มลูกมาด้วย แต่ดูดีๆ กลายเป็น Red Label ขวดใหญ่ 4.5 ลิตร พึ่งเคยเห็น (นัยว่าเอามาเย้ยเทพเมรัย และศิษย์หนุ่ม ph 16) ผู้หมวดสาละวันกับเหล้าขวดนี้มากๆ ไม่ว่าจะไปไหนก็จะหิ้วไปด้วย หรืออย่างน้อยต้องมีคนเฝ้า น้องๆหลายคนรู้สึกสนเท่ และแวะเข้ามาดูด้วยความทึ่งและเกรงๆ , วัช ศูนย์หน้าตัวยืน อิๆ , อาจารย์แกะ ปีนี้ก็เล่นได้ดีจริงๆ ทำไมฟิตอย่างนี้, แอนดรู ยืนหลังขวา มาพร้อมพาหนะคันอย่างใหญ่ Toyota Vigo สีดำทมึน ช่างเหมาะสมกับรูปร่างของเขานัก ...!, อ้อย กลางจอมพริ้ว เสียดายปีนี้ได้ลงสนามน้อยไปหน่อย, ต๋อง รองเท้าสวยนะ ยังแอบอิจฉาและอยากได้บ้าง, เม้ง กลางจอมพริ้วลมอีกเช่นเคย ปีนี้ฟิตซ้อมมาอย่างดี สังเกตจากความลื่นไหลของจังหวะการเล่น และความพริ้วไหวในจังหวะแซวน้องๆ ด้วยความเอ็นดู...(อิๆ)

วางแผนการเล่น โดยกุนซือเฮียกานต์

หลังจากพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว พวกเราบัณฑิตโชว์ได้คุยกันถึงวิธีการเล่น และวางตัวผู้เล่นโดยกุนซือพี่กานต์ แล้วซ้อมกันเบาๆ

บัณฑิตโชว์คว่ำจบเสย 1-0 ! โอก๊อด

นัดแรก พบกับน้องทีม "จบเสย" ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงแชมป์ 3 สมัยเชียวนะ และปีนี้ยังเล่นได้ดีเหมือนเดิม และมีโอกาสส่องเสียวๆ หลายครั้ง แต่ถูกล้มตัวลงปัดโดยพี่ฐาได้ทุกครั้ง พี่ฐาเล่นดีมากในตำแหน่งโกล์ สามารถป้องกันลูกเสียวๆ ได้ทุกครั้ง ยิ่งดูยิ่งเสียว กับคู่นี้ รูปเกมส์เป็นไปอย่างสูสี แต่ดูเหมือนน้องจบเสยจะมีโอกาสมากกว่าและครองบอลได้ดี แต่หลังของเราเหนียวแน่นและประสานงานกันได้ดี และแล้วโอกาสของบัณฑิตโชว์ก็มาถึงเมื่อบอลไปขลุกขลิกกันหน้าประตู ทั้งต้น, เม้ง, หมวดปีเตอร์ก็เข้าไปยำใหญ่ คนละตุ๊บละตั๊บ สุดท้ายบอลมาเข้าทางหมวดปีเตอร์จิ้มเข้าไป บัณฑิตโชว์นำไป 1-0 แล้ว และหลังจากนั้นน้องจบเสยก็บุกหนัก และสามารถเรียกความเสียวสยิวได้หลายครั้ง ผ่านไปครึ่งแรก ตามมาด้วยครึ่งสอง บัณฑิตโชว์อาศัยความได้เปรียบเนื่องจากมีตัวผู้เล่นที่มากกว่า สลับเปลี่ยนกันอย่างสนุกเมามันส์ และลิงโลดกับสกอร์ที่นำเขาอยู่ ผมเองได้ลงไปเล่นกับเขาด้วย ดูเหมือนจะโดนบอล 2-3 ครั้ง น้องๆ จบเสยนี่ยิงไกลได้ดีทุกคน แต่เสียดายที่พลาดไปทุกลูก จนหมดเวลา พวกเราบัณฑิตโชว์ได้เฮดังๆ เพราะสามารถเอาชนะแชมป์เก่าได้สำเร็จ (จากที่ปีกลายนี้บัณฑิตโชว์ก็พ่ายแพ้ให้กับน้องจบเสยนี่แหละ 4-3)

Big cerebration

อา.....! เมื่อชนะ อะไรๆ ก็ดูดีไปหมด หมวดปีเตอร์เสียงดังกว่าเพื่อนฝูง และได้คุยดังๆ ไปทั่วทั้งสนาม ทิ้งความคาใจไว้ให้น้องจบเสย (โดยเฉพาะน้องนุ (จบเสย) ที่ดูเหมือนจะคามากกว่าเพื่อนๆ อิๆ) เสียงคุยโวของหมวดปีเตอร์ดังลั่น จากกลางสนามจนเรื่อยมาถึงเต๊นที่พักของพวกเราบัณฑิตโชว์ แต่นาทีนี้ไม่ว่าใครก็แฮป*** ดังนั้นการเฉลิมฉลองจึงเริ่มขึ้นในเต๊นนี่เอง Red Label ขวด 1 ลิตรถูกเปิดออก และบรรจงสูบโดยน้องๆ พี่ๆ ทุกคน พวกเราเม้ากันมันส์มาก มีทั้งถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอวุ่นไปหมด (รวมทั้งแซวน้องๆ ด้วยนะ ฮี่ๆๆ...เอ...ใครเป็นคนเริ่มนะ เล่นเอาน้องๆ น่ารักๆ หลายคนอายม้วนต้วน น่ารักไปอีกแบบ...) จังหวะนี้เองคันนาวาโจ้ก็ได้โอกาสชักรูปคู่กับหมวดปีเตอร์มีขวดเหล้า Red Label 4.5 ลิตรวางตรงหน้า เพื่อจะนำมาอวดเทพเมรัยและศิษย์หนุ่ม ฮี่ๆ (ไม่รู้ว่าประทับใจอะไรนักหนา แต่ยังไงก็จะเอามาอวดให้ได้ล่ะ)

พิธีเปิด

เวลาผ่านไปนาน เนื่องจากเป็นเวลาพัก ช่วงนี้มีพิธีเปิด โอย อ.ดร. ประจักษ์ บัวผัน เป็นประธานเปิด อาจารย์พูดเหมือนคุยกับนักเรียนมัธยมเลยซะงั้น เพราะเห็นทักทายว่า "ไหนใครปี 1 ส่งเสียงหน่อย..." (พวกเรายกมือ พร้อมกับ ฮูเล...!) , "ใครปี 2 ส่งเสียงหน่อย" (พวกเราก็ยังยกมืออีกซะงั้น ฮ่าๆๆ ฮูเล...!) , "ใครบัณฑิต ส่งเสียงหน่อย..." (พวกเราก็ยกมือขึ้น ฮูเล...! ) "บัณฑิตทำไมหน้าตายังอ่อนอยู่เลย" หรือ "น้องปี 2 เหรอ ทำไมเธอหน้าเหมือนปี 4 เลยล่ะ" (คริกๆ อาจารย์ทำไมน่ารักจังครับ ฮูเล...!) ตอนนี้พี่ฐาของเราดี๊ด๊าเป็นพิเศษ เห็นส่งเสียง วิ้วๆ วู้ๆ ด้วยความสนุกสนาน

กองทัพเดินด้วยหน้าท้อง (กินดีกว่า หิวแร้ว)

กลับมาที่เต๊นอีกครั้ง เผลอแป๊ปเดียวเที่ยงซะแระ พวกเราจัดแจงหาข้าวมาโซ้ยกัน มีใครซักคนถือตระกร้าหมาก เอ๊ย ตะกร้าข้าวมาด้วย ในนั้นมีหม้อหุงข้าว และกับข้าวบางส่วน ดูๆ แล้วเหมือนไปกินข้าวป่ายังงั้นเลย ผัดเผ็ดหมูป่าที่หมวดปีเตอร์จัดมาจากหนองคาย ปีนี้หมวดมีทั้งสุรา และอาหารเยอะแยะไปหมด นอกจากนั้นก็มี หมูปิ้ง, แหนมย่าง, ลวกหน่อไม้ (อุ๊ย ! อะไรน่ะ ไม่รู้จัก แต่ผมก็ปากคาบรูดไปหลายหน่อด้วยความหมั่นใส้ !) รวมทั้งตำถั่ว ที่ไม่เคยกินอีกเช่นกัน (ตำอะไรก็ไม่รู้เขียวๆ มีปลาร้าด้วย ...แต่ผมก็ดันฉีกปลาร้ากินกับข้าวเหนียวอีกด้วย...ฮี่ๆๆ) ตอนนี้ดูเหมือนเหล้า Red ขวดแรกจะหมดแล้วนะ อะไรก็อร่อยไปหมด ถ้าแย่งกันกิน...นะสิ

จ๊าก ชนะ ส.บ. อีกแล้ว 2-1นู่น

ถึงเวลาต้องลงสนามอีกครั้งแล้ว ครั้งนี้พวกเราเจอพี่ ส.บ. โดยหลายคนแอบยิ้มเพราะเห็นว่าคงชนะได้ไม่ยาก ครั้งนี้กุนซือพี่กานต์วางแผนให้เข็นผู้เล่นลงให้ครบทุกคน คนละ 3 นาที (ฮา...) และเป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อเริ่มเกมส์ได้ไม่นาน เม้งของเราเลี้ยงหลบกองหลังทีมพี่ ส.บ. แล้วฉีกไปทางขวา ซัดด้วยขวาโล่งๆ ลูกตุงตาข่ายอย่างสวยงาม พวกเราเชียร์อยู่ข้างสนาม ได้เฮลั่นทุ่ง 1-0 หลังจากนั้น พี่ ส.บ. บุกๆ และทำได้สำเร็จในจังหวะศูนย์หน้าลากบอลมาได้ในแดนของบัณฑิตโชว์ที่ประมาทไปห น่อย นึกว่าพี่เขาจะส่ง แต่กลายเป็นส่องไกลซะงั้น ลูกเข้าประตูไป 1-1 จากนั้นบัณฑิตโชว์ได้เขี่ยบอล จังหวะนี้เอง ต้นทองของเราอาศัยโกล์กำลังเผลอส่องตั้งแต่ครึ่งสนามลูกเข้าไปพอดี๊ พอดี เข้าง่ายไปมั้ย ? แต่พวกเราก็ยิ่งเฮลั่น ดีใจกันใหญ่ และเกมส์ที่เหลือพวกเราได้ผลัดกันเล่นโดยการเปลี่ยนตัวชนิดเอาเปรียบคู่ต่อส ู้ด้วยกำลัง (จำนวน) ที่เหนือว่า ฮ่าๆๆ... สำหรับกองเชียร์นอกสนามเชียร์กันอย่างสนุกทั้งพี่ ส.บ. และพวกเราบัณฑิตโชว์ มีการหยอกล้อและแซวกันเล่นนำโดยหมวดปีเตอร์อีกเช่นเคย และตอนเดินกลับ พวกเราก็ยังเฮฮาและคุยลั่น "อะไรจะเก่งขนาดนั้น นี่ชนะ 2 นัดแล้วนะ....555"

ชนะแล้วก็ฉลองๆๆๆๆ (อีกแล้ว) เอาน่า...เหล้ามันเยอะ ต้องรีบๆ กินกันหน่อย (ฮ่าาๆๆ) เดี๋ยวไม่หมดไงล่ะ

(เขียนมาเยอะ ชักหิวแฮะ พักกินข้าวมันไก่ กับกาแฟยายแหล่ก่อนดีกว่า อุตส่าบอกยายว่าขมๆ ยังขมไม่ถึงใจเลยนะนี่ สงสัยต้องใส่บีด้วย...)

เรายอมให้น้องปี 2

ถึงไหนแล้ว อ่ะ ต่อๆๆ...พวกเราพักกันอีกเพื่อรอแข่งกับน้อง ปี 2 ซึ่งได้ยินมาว่านัดที่แล้วชนะมา 5-2 นี่แสดงว่าน้องปี 2 ต้องเล่นเก่งแน่ๆ และเมื่อถึงเวลาแข่งกุนซือของเราได้วางตัวผู้เล่นที่ฟอร์มดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น โจ้, แอนดรู, เจี๊ยบ, เม้ง, ต้น, หมวดปีเตอร์, โอโร่ ลงไปเล่น และเปลี่ยนตัวในบางครั้งเหมียนเดิม ปรากฎว่ารูปเกมคู่คี่สูสีนะ น้องปี 2 เล่นเหมือนบัณฑิตโชว์เลย คือมีหลัง 3 คน กลาง 2 และห้อยศูนย์หน้าไว้ 1 คน บัณฑิตโชว์นั้นได้เล่นมากกว่า และแต่พอจังหวะสุดท้ายบอลไปติดกองหลังหมด น้องๆ ป้องกันได้ดีมั่กๆ ปลายครึ่งแรกน้องปี 2 ได้ยิงไกล บอลไปโดนขาโจ้ที่ตั้งใจจะสกัดแบบท่าโนรารำแพน แต่บอลเปลี่ยนทางแฉลบหลบโอโร่ที่ยีนงงอยู่ บอลเข้าประตูไปอย่างส๊วยสวย 1-0 โชคร้ายจริงๆ โจ้ยิ้มแห้งๆขอโทษขอโพยเพื่อนละล่ำละลัก มานไม่ได้ตั้งจาย ทำไงได้ กองเชียร์น้องปี 2 เฮฮาลั่นสนามเลยตอนนี้...อืมบัณฑิตโชว์ซึมนิดๆ เนื่องจากโดนนำอยู่ 1 ลูก..... ครึ่งหลังบัณฑิตโชว์ยังปั้นเกมขึ้นหน้าไม่ค่อยได้ พอจะขึ้นทีก็เจอกองหลัง น้องเซนเตอร์ซัดตูมเข้าป่าไปเลย หรือบางทีลูกตั้งเตะน้องก็เตะออกนอกสนามซะงั้น อิๆ ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเล่นพลาดหรอก ช่วงนี้หมวดปีเตอร์ชักยั๊วะๆ พยายามวิ่งๆๆ แต่ก็ยังปั้นเกมส์ไม่ได้ กลายเป็นเอื่อยๆ ไป แต่ช่วงต่อเวลาบัณฑิตโชว์ก็มีโอกาสบุกและยิง แต่ไม่เข้ากรอบเลย ว้า....! พักนี้เกมส์ในสนามชักเฉื่อยๆ พวกเรากองเชียร์ประกอบด้วย เม้ง-อ้อย-คันนาวาโจ้ เลยคิดทำอะไรแก้เซ็งด้วยท่าเต้นพัสร็อพ (ประเทศลาวจะเรียกว่า "พัดสลบ") ที่เริ่มไอเดียโดยเม้ง โดยยืนเรียงแถว ใช้แขนล็อคกันไว้ เต้นเตะสลับเท้า อิๆ หนุกดี พร้อมๆ กับเสียงร้องเพลง + เสียงกลองของต๋องกับน้องๆ ปี 2 อย่างสนุกสนานโดยไม่ได้สนใจสกอร์เท่าไรนัก และเกมส์ก็จบลงด้วยสกอร์ 1-0 บัณฑิตโชว์แพ้อย่างน่าเสียดาย หลายคนคาใจกับรูปเกมส์และสกอร์ที่ได้มา ว่าเราไม่น่าแพ้ ยิ่งมีผู้เล่นคนนึงของน้องปี 2 ตัวเล็กๆ ใส่กางเกงยีนขาลีบ แล้วถลกขึ้นมานิดหน่อย รองเท้าผ้าใบ วิ่งกระดิ๊กๆ เหมือนกระเทยไม่มีผิด พวกเราหลายคนยิ่งหมั่นใส้ และคาใจยิ่งไปอีก ถึงแม้น้องเขาจะโดนบอลแค่ไม่กี่ครั้ง ก็ยังดูขัดๆ ตา พี่ฐาของเรายังบอกด้วยว่าเหยียบตี-น น้องเขาไปครั้งนึง...(คริกๆ คิดว่าแกคงหมั่นใส้มั้ง... ) พวกเราเดินหงอยๆ เข้าไปที่เต๊นและนั่งสนทนากัน แถมดื่มฉลองให้กับความพ่ายแพ้นัดแรก ดูเหมือน นุ จบเสย จะยังคาใจกับสกอร์ที่แพ้ให้กับบัณฑิตโชว์ไปเมื่อเช้า 1-0 ยังไม่หาย ชักชวนผู้หมวดปีเตอร์ให้เตะนัดล้างตากัน และคะยั้นคะยอจนสำเร็จ ด้วยการยิงจุดโทษมองเห็นอยู่ใกลๆ เห็นหมวดปีเตอร์บอกว่ายอมให้น้องเตะเข้า เพื่อให้น้องมันหายคาใจ...หุๆ

หมวดปีเตอร์จับฉลาก

อืม...ตอนนี้ก็ใกล้ค่ำแล้วล่ะ มีน้องๆที่จัดงานมาบอกว่าคะแนนของจบเสย, บัณฑิตโชว์ และ น้องปี 2 เท่ากัน เลยต้องจับฉลากเพื่อคัดเลือกทีมที่เข้ารอบ (คันนาวาโจ้คิดว่าน่าจะแข่งอีก เนื่องจากเรี่ยวแรงยังเหลือ คึกๆๆๆ) พวกเราจึงส่งหมวดปีเตอร์ไปจับ ผลปรากฎว่า "แปร่ว...ตกรอบ" ซะงั้น แต่ถึงจะจับได้พวกเราก็คงยอมให้น้องเข้ารอบอยู่แล้วล่ะ เพราะเราเป็นพี่ที่ดี หวังดีต่อน้องๆ ฮี่ๆๆ .... เกมส์การแข่งขันของบัณฑิตโชว์ในปีนี้จึงออกมาดังนี้แล จากนั้นทุกคนก็เก็บข้าวของ เก็บขยะ และแยกย้ายกันกลับไปที่ห้อง เพื่อเตรียมฉลองกันต่อตอนเย็น ซึ่งเรื่องราวตอนเย็นยังมีอีกเยอะ แต่ตอนนี้มือหงิกแล้ว ขอพักก่อนแป๊ป ... แล้วจะมาเล่าให้ฟังกันต่อ ส่วนรูปถ่าย/VDO คงต้องรอเจี๊ยบ และโจ้ ให้ส่งมาอีกที แล้วจะนำมาให้ดูกันด้วยล่ะ อื้อ !

แถมท้าย...

PH Soccer League
เกมส์แห่งมิตรภาพ (ลาบก้อย) เพื่อน และพี่น้อง
ใครบางคนเปิดเผยว่า ทั้งปีรอวันนี้
บางคนบอกว่าอยากมาเจอเพื่อน
บางคนบอก อยากมาเห็นบรรยากาศ
มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในประเพณีนี้...
ที่เรียกร้อง กึกก้องอยู่ในใจ
บางอย่าง...ชักพาและดึงดูดให้พวกเรามาพบกัน
บางอย่าง...เชื่อมพวกเราให้กลมเกลียว
ประสานหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
สุดแท้แต่จะคิด ว่า..."บางอย่าง" ที่ว่าคืออะไร
สำหรับผมทั้งสนุกและ "ประทับใจ"
และขอบคุณพี่กานต์ พี่ฐา น้องๆทุกคนที่ได้มา "ลุย" ด้วยกัน
แล้วเจอกันอีกครับ... ไม่นานๆ...บ๊ายบาย จู๊บบบ จู๊บบบบ.....

Sunday, August 12, 2007

วงจรชีวิตของเห็บ...

สงสัยเหมือนกันว่าทำไมต้องเขียนเรื่องนี้ บังเอิญสุนัขที่ช่วยกันเลี้ยงกับเหมียวน้อยมันมีเห็บเยอะ ก็เลยลองศึกษาเกี่ยวกับวงจรชีวิตของเห็บ และวิธีกำจัด ได้ความรู้เยอะมากจากเว็บนี้ http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/J3060235/J3060235.html อ่านแล้วก็เลยลองเขียนวงจรชีวิตเห็บออกมาในแบบของผม โป๊ะเช๊ะ ...! ผลที่ได้ก็เป็นอย่างนี้แหละครับ...


Saturday, July 14, 2007

ฟังเพลงจาก Digio Radio


มันเป็นสถานีเพลงออนไลน์น่ะเอง เห็นตัวอย่างเว็บ www.mzaa.com เขาเอาไปแปะที่หน้าเว็บ เลยลองทำดูบ้าง วิธีใช้ก็แค่คลิกเลือกสถานีเพลง เดี๋ยวมันก็เล่นให้เองอ่ะ...เพลงเพราะนะ...

Monday, July 02, 2007

รู้ได้ยังไง..ว่าชอบอะไร

"มีน้องคนหนึ่งบอกว่าเป็นเด็ก ม. 6 เข้าไปถามกระทู้ในเว็บบอร์ดศิษย์เก่า สาธารณสุข ม.ข. ว่า

รู้ได้ยังไง..ว่าชอบอะไร

ค่ะ เราจะรู้ได้ยังไงว่าเราชอบคณะนี้จริงๆ คณะนี้เหมาะกับเรา
พี่ๆ มีวิธีการค้นหาตัวเองบ้างใหมคะ เพราะการค้นหาตัวเองมันยาก ยากกว่าค้นหาคนอื่นอีกนะคะ"

เราเลยตอบไปว่า...

ปัญหาคือค้นพบว่าตัวเองชอบ "อะไร" ในตอนนั้น แต่ "อะไร" ที่ว่ามันถูกบดบังด้วยหลายสิ่ง (ค่านิยม, สังคม, กระแส, คำบอกเล่า, ความรู้สึก, ครอบครัว, ครู, เพื่อน, โลก ฯลฯ) บางทีเมื่อเวลาผ่านไปเรากลับพบว่า "เฮ้ย...นี่มันไม่ใช่นี่ !!! มันไม่ใช่สิ่งที่เราค้นหา เราไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้...ฯลฯ" เอ...แล้วคราวนี้ล่ะจะทำยังไง

หลายครั้งที่เรามักสับสน ว่าชีวิตเราต้องการอะไรกันแน่ คิดอยู่ดีๆ ก็ถูกลากไปอยู่ ณ ที่หนึ่ง (มีบางอย่างลากไป...ครอบครัว, ความคิด, เพื่อน, กระแสค่านิยม) ที่ซึ่งเราคิดว่า "เออ...เอาวะ ดีกว่าไม่มีอะไรทำ (เรียน) เราอาจชอบสิ่งนี้ก็ได้นี่...หุๆ" ด้วยขอบเขตของเวลา, เงิน, โอกาส

เออ...แล้วไงต่อหว่า...?? หุๆ ชีวิตมันคืออะไรกันแน่ เราจะไปทางไหนดี อย่าพึ่งคิดมากครับ พี่แค่อยากจะบอกว่า เลือกอะไรซักอย่าง ที่เรา...เรียงตามลำดับนะ

1. "สนใจ"
2. "คิดว่ามันท้าทาย"
3. "มีพื้นฐาน"
4. "ถนัด"
5. "เราชื่นชม/และอยากเห็นตัวเราเป็นเ่ช่นไร"

แต่...คำถามคือ "แล้วเรารู้ได้ไงว่าเรา "สนใจ, ท้าทาย, มีพื้นฐาน, ถนัด ฯลฯ" อะไรล่ะจ๊ะพี่ ???

พี่ว่าน้องควรรู้จัก "ตัวเอง" เป็นอันดับแรกด้วยระยะเวลาที่ born to be me (Hello world !) เป็นเวลา 17-18 ขวบฝน แต่อย่าได้วางใจเชียว เพราะหากเราเล่นกับ "ความรู้สึก" มันมักเปลี่ยนไปทุกทีๆๆๆๆ ที่เจอสิ่งใหม่...หุๆ อย่ากังวลไปเรยนะ ใครๆก็เป็นกัน...(คริกๆ) แต่หากน้องค้นหา "หัวใจ" ที่ซ่อนความใคร่รู้อยู่ตลอด คราวนี้น้องจะได้โลกทัศน์ใหม่ ว่า "เออ...นี่เราเองเหรอเนี่ย" แต่เวลาอาจผ่านไปนานแล้วกว่าจะค้นพบตัวตนที่แท้จริงก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ เพราะพี่เห็นนายแพทย์บางคนลาออกมาขายของชำ, นายตำรวจขายข้าวต้มรอบดึก, และอาจารย์ลาออกมาขายต้นไม้, หรือ...คุณนายที่เบื่อปลาคาเวียมาทำฟาร์มปลาดุก...หึๆ ...ปลาดุกคร๊าาาา...โลละ 30 บาท

ดังนั้น...ไม่เห็นต้องกังวลอะไรเรย เรียนอะไรก็ได้ แต่ให้ตั้งใจเรียน วิเคราะห์ตัวเอง นึกถึงสังคม เผื่อแผ่ และแน่วแน่ สุดท้ายใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์อย่างคุ้มค่า อย่ายึดติดเพียงเราเป็นเรา...บางทีคนที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเรา อาจครอบงำเราและเปลี่ยนตัวเราเป็นอีกคน...ขอให้เปิดหัวใจให้กว้างที่จะรับ รู้การเปลี่ยนแปลง

(ยาวไปแล้วตู...พอเหอะ หลักการไม่สำคัญเท่าการปฏิบัติ แต่มีไว้ก็ดีนะ...เออ...!)

ขอให้โชคดี ที่เขียนมาอาจยิ่งทำให้สับสนยิ่งขึ้นก็ได้ ว่าแต่หาข้อมูลให้ได้เยอะๆแหละดี พี่ๆคนอื่นอาจคิดได้ต่างจากนี้ และน่าจะน่าอ่านกว่านี้นะ...คริกๆ

Sunday, June 24, 2007

LINUX TLE 8.01 น่าใช้นะ

พอดีได้มีโอกาสไปอบรม LINUX SIS แล้วทีมที่อบรมมาจาก NECTEC น่ะ เราถามเขาเกี่ยวกับ LINUX TLE เกี่ยวกับการติดตั้ง พี่เขาก็แนะนำขั้นตอนมาทั้งหมดเรียบร้อย เกิดอาการคึกจัดระงับความรู้สึกไม่อยู่ เลยขอไฟล์ติดตั้งจากพี่ admin ของ Esan Software Park มาลองลงดู

ป๊าป...แบ่งพาติชั่นเรียบร้อย โดยใช้ Symantec Partition Magic โดยขอจากไดร์ D: ของ Windows มา 5 GB. ติดตั้งเรียบร้อยทุกอย่าง แต่....มานบู๊ตไม่ขึ้นง่า...

หาสาเหตุอยู่นาน มาเปิดดูฟอรั่มของ www.opentle.org ก็พบว่า...ในขั้นตอนการติดตั้งนั้น สรุปได้ดังนี้

  • เราต้องแบ่ง / (root) ให้เป็น primary partition ความจุประมาณ 5 GB.
    (อีตรงนี้แหละที่ทำพลาด ผมดันตั้งเป็น logical ซะนี่ มิน่ามันบู๊ตไม่ขึ้น เพราะมันไม่ยอมลง Grub ให้นี่เอง...โฮะๆ
  • ลองใหม่อีกที อาา...คราวนี้ลงได้เรียบร้อย บู๊ตขึ้นมาได้หน้าตาอย่างนี้นี่เองครับ...หุๆ


Theme ของ LINUX TLE 8.0 ก็ดูสวยดีนะ ผมว่าสวยกว่า Windows XP ซะอีกแน่ะ



ด้าน OpenOffice 2.0 ก็มีโปรแกรมด้านออฟฟิศมากมาย และดูเหมือนจะไม่มีปัญหาเรื่องฟอนต์เลยนะครับ เยี่ยมๆ (ตอนติดตั้ง LINUX TLE 8.0 สามารถลากเอาฟอนต์ของ Windows มาใช้ได้ด้วยแหละ หุๆ) อ้อ ... แล้วยังสามารถบันทึกเป็นไฟล์ PDF ได้อีกด้วยล่ะ เออ...นี่ถ้าเป็น Windows นะ วิ่งหา Adobe Acrobat กันจ้าละหวั่น...เหอๆ


โปรแกรมด้านอินเตอร์เน็ตบราวเซอร์ก็นี่เลยครับ Iceweasel (เกิดมาพึ่งรู้จักนี่แหละ ไปอ่านๆ ดูใน Wiki เลยรู้ว่าเขาพัฒนาต่อจาก Firefox ในลักษณะ rebranding นั่นเอง...มิน่าล่ะหน้าตาเหมือนกันยังกะแกะ เพียงแต่ Firefox มันสีส้ม ส่วนตัวนี้สีขาวๆ เหมือนหมีขั้วโลกน่ะแหละ โลโกมันคือไอ้หมีขาวนี่แหละครับ)

.
โปรแกรมดิกชันนารี มีทั้ง Star dic, Lexitron แหม....อะไรจะดีขนาดนี้ ใ้ช้งานได้ดีมากครับ สำหรับ Star dic นั้น เวลาเราเปิดโปรแกรมขึ้นมาแล้วใช้เมาส์เลือกข้อความในหน้าเว็บ, หรือโปรแกรมอื่นๆ เขาจะแปลให้เราทันทีเลย เออ....ดีแฮะ และโปรแกรมพวกนี้ถูกนำมาพัฒนาต่อ เช่น เพิ่มเสียงอ่านให้ด้วย โอ๊ย...ดีๆ บางทีจะได้ใช้ศึกษาวิธีออกเสียงไงครับ ส่วนชื่อโปรแกรมอะไรขอให้ไปค้นดูเองนะขอรับ เพราะผมมะได้ค่าโคนาอ่ะ...อิๆ


Gaim Instant Messenger ไงครับ โปรแกรมเดียวใช้ได้ครอบจักรวาลเลยนะ ขอบอก..! ไม่ว่าจะเป็น ICQ, IRC, MSN, Yahoo, Sanook QQ, AIM, Jabber, SIMPLE, Sametime (แหะๆ บางตัวเราก็ไม่รู้จักอ่ะ ...)

แล้วไอ้นี่ล่ะ ...เป็น Screen Capture ครับ ที่ช่วยให้ผมนำภาพจาก Linux Tle มาอวดโฉมใน Blog นี้ได้ยังไงล่ะครับ

อย่าลืมอุดหนุนทีมพัฒนาโปรแกรมด้วยนะครับ ผมว่าน่าใช้มาก ทั้งความสวยงาม ความเป็นสารพัดประโยชน์ และที่สำคัญ "ฟรี" ถ้าเราหันมาใช้ Open Source กันมากๆ จะได้ช่วยประเทศชาติ (และตัวเราเอง) ประหยัดงบประมาณในการซื้อโปรแกรม และให้รอดพ้นจากกฎหมายลิขสิทธิ์ (...ล่ะมั้ง) ครับ

ในเว็บของ Linuix เขาบอกว่า Free = Freedom นะครับ

Monday, May 28, 2007

สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ของ อุดม แต้พานิช

อ่านเจอใน blog ของคุณ zachashop http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=zachashop&group=4 แล้วรู้สึกขำดี อ่านไปยิ้มไป เลยจิ๊กมาฝากครับ ขอบคุณคุณอุดม และเจ้าของ blog ด้วยครับ...


+สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ของ อุดม แต้พานิช+

  • เวลารถติด เลนอื่นมักไปได้เร็วกว่าเลนเราเสมอ
  • ถ้าเราขับรถไม่ทันไฟเขียวเป็นคันสุดท้าย ให้คิดว่าเดี๋ยวเราจะได้ไปเป็นคันแรก
  • ถ้ามีการแนะนำตัวว่า "นี่เพื่อนฉัน" หมายความว่า "แฟนฉัน"
  • ถ้ามีการแนะนำตัวว่า "นี่แฟนฉัน" หมายความว่า "ผัว/เมียฉัน"
  • มนุษย์ต้องการสิ่งที่ตนเองไม่มี
  • แฟนของคนอื่นมักจะสวยกว่าแฟนของตัวเอง
  • เวลาที่เราวิ่งมารับโทรศัพท์จากที่ไกลๆ เมื่อถึงโทรศัพท์ เสียงมันมักจะหยุด เราจะช้าไป 1 จังหวะเสมอ
  • ถ้าแอบรักใครอย่าฝากใครไปบอก บอกด้วยตัวเองจะดีกว่า
  • เวลาสั่งอาหารไว้นานแล้วยังไม่ได้สักทีให้พูดว่าไม่เอาจะได้เร็ว
  • ถ้าเรียกเก็บเงินแล้วไม่มีใครมาเก็บเสียที ให้ลุกขึ้นทำท่าจะกลับทั้งโต๊ะ จะมีพนักงานพุ่งมาทันที
  • ปลูกต้นลั่นทมไว้หน้าบ้านไม่เกี่ยวอะไรกับความทุกข์ระทมของตัวเราเลย
  • ระวังคนขายโรตี ที่เพิ่งเดินออกมาจากป่าละเมาะ, พุ่งไม้, ซอกตึก,อย่าตัดสินใจซื้อจนกว่าเขาจะล้างมือ
  • ไม่มีสัจจะในร้านตัดเสื้อ
  • ระวังคน ที่แสดงออกว่าเป็นคนดีมากๆ
  • อย่าซื้อทุเรียนมาปอกเอง
  • หนังสือดีคือหนังสือที่เราชอบอ่าน, หนังดีคือหนังที่เราชอบดู
  • อยากให้คนอื่นรู้เรื่องที่เรานินทามากๆ อย่าลืมย้ำบ่อยๆ ว่า "อย่าบอกใครนะ"
  • อย่าทิ้งกระดาษชำระไว้ในชามก๋วยเตี๋ยวคนล้างจะเสียความรู้สึก
  • เรียกยามว่าซีเคียวรีตี้ การ์ด ยามจะตั้งใจโบกรถ
  • อย่าซื้ออะไรที่ต้องเอามาซ่อมต่อ
  • รถในเมืองไทยพวงมาลัยอยู่ทางขวา แต่ฝาน้ำมันไม่อยู่ขวาเสมอไป
  • ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนไม่ต้องเอายาสีฟันไปก็ได้ ยังไงเพื่อนต้องมี
  • อย่าเข้าใกล้หมาตอนกินข้าว
  • ตลาด อตก. มาจากคำว่า เอเวอรี่ติง เกินราคา
  • เวลาดูหนังโรง ควรจำว่ากระปุกน้ำอยู่ด้านไหน
  • ตัดผมวันพุธได้ ไม่บาป
  • คนไม่กินเนื้อไม่ได้แปลว่าเป็นดีเสมอไป
  • เวลาบ้วนน้ำยาลิสเตอรีน ออกจากปากให้หลับตาด้วย
  • ปูอัด มันทำจากปลา
  • กระเพาะปลามันทำมาจากหนังหมู
  • กินก๋วยเตี๋ยวจากตะเกียบไม้อร่อยกว่า
  • อย่าไปจ่ายตลาดเวลาหิว เราจะซื้อมาเยอะเกินจำเป็นเสมอ
  • ในโลกนี้จะชอบมีคนมาทักอยู่ 2 ประเภทเท่านั้น ประเภทแรก "อ้วนขึ้นนะ" กับประเภทที่ 2 "ผอมลงนะ" ไม่มีใครเข้ามาทักว่า "ปกติดีนี่ไปทำอะไรมา"
  • คนที่เอาหมวกตำรวจหรือชุดตำรวจแขวนไว้หลังรถมิใช่เพราะบ้านเขาไม่มีตู้ เขาไม่ได้ลืม เค้าแค่กลัวคนไม่รู้ว่าเขาทำอาชีพอะไร
  • คนที่มีรถทะเบียนเลขเดียวเรียงติดกันหลายๆตัว เป็นคนธรรมดาเหมือนกับเรา
  • คนที่มีความรู้มากๆ เขามักจะใช้ความรู้ขังจินตนาการ
  • ฟู่ฟ่าเดี๋ยวก็วาย เรียบง่ายอยู่ได้นาน
  • จงอย่าอิจฉาคนอื่น แต่จงใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา
  • เวลาที่เปิดหนังสือให้เพื่อนดูหน้าที่ตัวเองพูดถึงมักจะหาไม่เจอ
  • ขนมและน้ำในโรงหนัง จะแพงกว่าข้างนอก
  • ห้องน้ำผู้หญิง ผู้ชายเข้าไปดูเป็นพวกโรคจิต, ห้องน้ำผู้ชายผู้หญิงเข้ามาดูเป็นแม่บ้าน
วันนี้คิดเรื่องเขียนไม่ออก เลยใช้วิธีเอาของคนอื่นมาลง...อิๆ

Saturday, May 26, 2007

ชีวิตของนักศึกษา สุรา และมวลมิตร

หลายคนบอกว่ารู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาของผมที่เลี้ยงเหล้าพวกเขาในหลายค่ำคืน
ในระหว่างศึกษาที่คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ผมจึงบอกไปว่า
หาไม่....บางครั้งผมก็ตู้ด จนตูดขาด... (การตู้ด-หมายถึงการใช้ก้นถูไปตามพื้นเป็นทางยาว ในที่นี้หมายถึงดื่มกินโดยให้เพื่อนร่วมวงจ่ายเงิน เนื่องจากตนเองไม่มีกะตังค์)

และเดี๋ยวนี้ในบางค่ำคืนที่กระเป๋าแห้ง แต่หัวใจยังเรียกร้องถึงอบอวลแห่งสุรา...ผมก็ยังตู้ดอยู่ เมื่อมีโอกาสที่น้องๆ แวะมาเยี่ยมเยียน...
เพียงใจที่ต้องการแสดงถึงความรักต่อน้องที่นุ่งผ้าอย่างจริงจัง
ทุกกระเบียดนิ้วในซอกหลืบของหัวใจ...(ที่ลุ่มหลงแห่งบรรยากาศของความรัก น้ำใจ แลมิตรภาพ)
น้อยกว่านี้ (การตู้ด) ผมคงทำไม่ได้...

บางครั้งผมที่ซ่อนตัวในก้นทะเลแห่งอารมณ์ก็ร้องครวญออกมาว่า "ให้ข้าได้แสดงความรักต่อน้อง ๆ...โปรดนำพาข้าไปยังที่ที่พวกเขาอยู่"
พลัน...มอไซต์ YAMAHA Bell-100 คันเก่ามาก แต่ยังฟิต บึ่งออกจากที่ที่ควรหลับนอน(ได้แล้ว) ...
จากนั้นไม่นาน ผมก็รายรอบด้วยน้องๆ ที่รักกันยิ่งกว่าเสือที่รักป่า หญ้ารักดิน ...อบอุ่นยิ่งกว่าฟูกหมอน
เวลานั้นผมคิดได้ว่า..."ไม่น่าจะมีบรรยากาศใดดีกว่าการได้หยิบยื่นความรักให้แก่กัน"
...

Monday, May 21, 2007

Pirates of the Caribbean 3


ดูมา 2 ภาคแล้ว ประทับใจหนังเรื่องนี้เพราะ...

ชอบความแฟนตาซีของหนัง

ความกะล่อนของกับตันแจ็ค Jack Sparrow




ฝีมือดาบที่เก่งกาจ และความอ่อนไหวของหัวใจวิล เทอเน่อร์ Will Turner




ความเด็ดเดี่ยวของเอลิซาเบ็ท Elizabeth Swann
"พี่น้องโจรสลัดทั้งหลาย เราจะให้เขาเห็นเปลวแสงที่เปล่งประกายออกจากปืนของเรา
หัวใจอันเด็ดเดี่ยวของเรา"



กับตันบาร์โบซ่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งเรือแบล็คเพิร์ล Hector Barbossa



การมีชีวิตเป็นอมตะไม่ใช่เรื่องสำคัญ มันสำคัญที่การใช้ชีวิตอย่างมีสติ

ภาคนี้เอลิซาเบ็ธกลายเป็นราชาแห่งโจรสลัดไปซะแล้ว หลังจากถูกกับตันเซาเฟ็งนำตัวไปแต่กัปตันเซาเฟ็งถูกลูกหลงจากปืนของกองทัพแบ็คเก็ทตายไปซะก่อน จึงยกเหรียญ 8 เหลี่ยมให้กับเอลิซาเบ็ธ จากนั้นเอลิซาเบ็ธได้นำเรือไปที่อ่าวเรือแตกเพื่อประชุมเหล่าโจรสลัด



นอกจากนั้นหลังจากกับตันบาบอสซ่าได้ตัวแจ็คกลับคืนมาจากก้นทะเลแล้ว จากนั้นทั้งคู่ก็แย่งกันเป็นกับตันซะเอง



ตื่นตาตื่นใจกับฉากยิ่งใหญ่อลังการมาก หนังสนุกตลอดเวลา และแทรกด้วยอารมณ์ขัน และฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ เยอะมาก ส่วนตัวชอบประโยคที่เอลิซาเบ็ธพูดปลุกใจเหล่าโจรสลัดให้ลุกขึ้นสู่กับกองทัพของลอร์ดคัทเลอร์ แบ็คเก็ท

ฉากการยิงกันของเรือแบ็คเพิลกับเรือดัชแมนในวังน้ำวนที่มันส์มากๆ

ตอนจบวิล เทอเนอร์กลับกลายเป็นผู้มีชีวิตเป็นอมตะจากความช่วยเหลือของแจ็คในวินาทีสุดท้ายก่อนที่วิลจะตายจากดาบของเดวี่ โจนส์ วิลได้ช่วยพ่อของเขาให้พ้นจากคำสาป รวมทั้งได้แต่งงานกับเอลิซาเบ็ธ แต่เขาต้องนำวิญญาณคนตายในทะเลไปสู่สุขคติ และจะได้ขึ้นฝั่งเพียงวันเดียวทุกๆ 10 ปี ซึ่งเขาบอกว่า "วันเดียวก็คุ้มค่ากับการมาพบกับเอลิซาเบ็ธ"


หัวใจข้าเป็นของเจ้า

เจ้าจะแต่งงานกับข้ามั้ย




เอลิซาเบ็ธเป็นสาวพราวเสน่ห์ผู้เปี่ยมด้วยความเด็ดเดี่ยวและเข้มแข็ง

บาบอสซ่าผู้รักอิสระ เขาบอกกับแจ็คว่าไม่ควรห่วงเรื่องความตาย เพราะตายง่าย แต่การกลับมานั้นยากกว่า...ตอนสุดท้ายเขาได้เรือแบล็คเพิลกลับคืนมา

แจ็คนั้นเต็มไปด้วยสติปัญญา และการต่อรองอยู่ตลอดเวลา แต่เขาก็มากด้วยความสามารถสมเป็นกัปตัน และเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือเอลิซาเบ็ธในภาวะคับขัน เพียงแต่เขาเองก็ไม่ได้หลงไหลเอลิซาเบ็ธมากนัก เพราะเขารักตัวเองยิ่งกว่า แต่เอลิซาเบ็ธก็ประทับใจแจ็คอยู่หลายเรื่องนะ


และ "ทอทูการ์" เกาะนี้ี่มีจริงด้วยนะ...อิๆ นี่ๆ ตามแผนที่อยู่แถวๆ ไฮติ (Haiti)



ทอทูการ์จากภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ...อ้างอิงจาก...http://en.wikipedia.org/wiki/Tortuga




หนังเรื่องนี้กำหนดฉายวันที่ 24 พ.ค. 50 นี้ ประเดี๋ยวถ้าดูแล้วจะมาเขียนต่อครับผม...




ตอนนี้ไปดูตัวอย่างก่อนดีกว่าครับผม...เย้ !