Saturday, November 20, 2010
Monday, October 25, 2010
24 ตค 53 ปากช่อง ห้วยม่วง
24 ตค 53
ส่งของขึ้นชาญทัวร์ จากขอนแก่น-อุดร ใช้เวลา 20 ชั่วโมง
ผมส่งพัสดุจากขอนแก่นไป จ.อุดรฯ ด้วยกล่อง 3 กล่องจากเวลา 14.00 แล้วคอยโทรเช็คที่ปรับอากาศอุดร ตอน 17.00 ก็ยังไม่พบว่าของมาถึงอุดรซักที จนครั้งสุดท้ายที่โทรคือเวลา 19.00 ของยังไปไม่ถึงอุดรเลย ได้รับคำอธิบายจากพนักงานชาญทัวร์ว่ารถยังไม่เข้ามา ให้โทรเช็คอีกทีตอนเที่ยงพรุ่งนี้ และได้รับโทรศัพท์แจ้งจากเพื่อนที่อุดรเวลาราวๆเที่ยงของวันที่ 25 ว่าพึ่งได้รับของ เฮ้อ...ต่อไปคงไม่ใช้บริการมันแล้วล่ะ ค่าส่งก็แพงตั้ง 300 บาท และไม่รู้ด้วยว่าของจะขึ้นรถคันไหน เวลาเท่าไรจะถึง ที่เลือกบริษัทนี้เนื่องจากมีรถไป จ.อุดร และไม่แน่ใจว่าที่ บขส.จะมีบริการรับส่งของหรือไม่ เรื่องนี้ต้องไปสอบถามดูอีกที เนื่องจากบางครั้งเราต้องการส่งของด่วนแล้วถ้าเจอกรณีแบบนี้อีกจะทำให้เสียงานได้ บ้าชิบ...
ขอนแก่น-ปากช่อง บนรถชาญทัวร์ราคาไม่คุ้ม
ออกจากขอนแก่นเวลา 15.30 น. ด้วยรถทัวร์ ป.1 ชาญทัวร์ ด้วยราคาตั๋ว 381 บาท (ไอ้ห่านี่มันตั๋วขอนแก่น-กรุงเทพฯ นี่หว่า เราซื้อไปได้ไงวะ) แต่เนื่องจากไม่มีเวลาหารถอีกแล้ว เพราะบริษัทอื่นมีรถช่วงค่ำ ส่วนนครชัยแอร์นั้นถึงจะมีรถตลอดบ่ายถึงดึก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะยินดีจอดรถให้ที่ปากช่องหรือไม่ คนเดินทางค่อนข้างน้อย ผมขึ้นไปนั่งบนรถไม่นานพนักงานก็แจกขนมเน่าๆ (ขนมปังใส้สังขยา กินเข้าไปคำแรกแทบอ้วก เพราะเริ่มมีกลิ่นสังขยาและมีรสเปรี้ยวเฝื่อนเขามาปนลิิ้นแล้ว) ไม่ต้องพูดถึงอาหารใส่กล่องอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือผัดไทยใส่ไข่ หมูสับกลิ่นอับๆ ไม่น่ากินเลย ผมเสียบไว้ที่ที่เก็บอาหารหลังเบาะนั่งโดยไม่อยากใส่ใจเท่าไรนัก
ระหว่างทางเข้าพิมายก็เริ่มพบน้ำท่วมตามข้างทาง ไร่นาชาวบ้าน บ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างมาก บางช่วงมีน้ำท่วมถนนมิตรภาพสูงประมาณ 6 นิ้ว ตามข้างทางเต็มไปด้วยน้ำยาวไปเรื่อยๆ จนถึงตัวเมืองโคราช แม้ทางเลี่ยงเมืองก็ได้รับความเสียหาย น่าสงสารชาวบ้านแถบนั้นมาก เป็นที่น่าสังเกตว่าเส้นทางสายมิตรภาพที่ผ่านตัวเมืองนั้นจะถูกแบ่งเป็น 3 เส้น คือ 1) จอหอ-วิทยาลัยครู-ผ่านหน้า รร.สุรนารี 2) เส้นตรงไป บขส.2 ผ่านหน้าพีกาซัส และ Big C และ 3) ถนนสายเลี่ยงเมือง ผมวิเคราะห์จากสภาพที่เห็นว่าปัญหาน้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกหนักและน้ำที่เอ่อล้นจากการระบายน้ำจากเขือนลำตะคองที่อยู่ทิศเหนือของเมืองโคราชนั้นเนื่องจากมีถนนมิตรภาพขวางเส้นทางน้ำไหล รวมทั้งอาคารบ้านเรือนที่แน่นขนัดทำให้เกิดน้ำขังอย่างหนัก และเมื่อล้นถนน 3) น้ำจะไหลเข้าสูงตรงกลางเมืองคือเส้นที่ 2 ที่มีถนนเส้น 1 ขวางอยู่มีลักษณะเป็นแอ่งอย่างเห็นได้ชัดทำให้พื้นที่แห่งนี้เกิดน้ำขังหนักที่สุดและประกอบกับลำน้ำสาขาของลำตะคองนั้นไหลผ่านตัวเมืองทำให้ซ้ำเติมสภาวะน้ำท่วมยิ่งขึ้นไปอีก อาคารพาณิชย์ บ้านเรือน และโรงพยาบาลเสียหายหนัก รถยนต์หลายคนได้รับความเสียหาย การช่วยเหลือก็ทำได้ยาก สภาพน้ำท่วมยังพบเห็นไปถึง อ.กุดจิก และสีคิ้วด้วย โดยเฉพาะทิศเหนือของถนนมิตรภาพ
19.30 บ้านเสี่ยเต้ง ต้มไก่, ย่างหมึกพอล
ไปถึงปากช่องนั่งรอเสี่ยเต้งที่โลตัส ซดกาแฟขมไป เอสเพรสโซ่ ไป 1 แก้ว (ขมตายไม่เอาเรื่อง) พอไปถึงบ้านเสี่ยเต้งก็พบว่าหมอศักดิ์, ที่เทอร์ดกำลังช่วยกันจัดการกับไก่อยู่ หมอศักดิ์ต้อนรับด้วยเลือดไก่ลวกแกล้มหงษ์ทอง รสหวานๆ แปลกๆ กินไปกินมาถึงรู้ว่าเลือดนั้นลวกไม่สุก มีเลือดแดงๆไหลออกมาเป็นที่สยอดสยองสุดๆ ... ผมเดินเข้าไปในครัวไปช่วยสับไก่ แถมแอบดูเคล็ดลับการถอนขนไก่ของพี่เทอร์ดศักดิ์ นั้นแกใช้ทัพพีขูดขนออกสะอาดโครตๆ ส่วนน้ำจิ้มหมึกพอลนั้นเป็นน้ำจิ้มทะเลที่ปุ๊ (เมียเสี่ยเต้ง) เป็นคนทำ เห็นบอกว่าใช้มะนาว, น้ำปลา, น้ำตาล, กระเทียม และใช้พริกขี้หนูสวนตำเพื่อให้ได้กลิ่นหอมๆของพริก รสชาติปะแล่มๆ ดี ส่วนต้มไก่สูตรหมอศักดิ์ ขานี้เขาทำรสป่าๆ โดยต้มใส่ข่า, เกลือ น้ำใสๆ แล้วใส่พริกแห้งปรุงในถ้วยตอนไก่สุกแล้ว น้ำปลานิดหน่อย ดูเหมือนไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่ก็อร่อยดี สมเป็นกับแกล้ม ทุกอย่างเผ็ดจนซู๊ดปาก (ดีกับท้องในยามพะอืดพะอมและขี้ไม่ค่อยออก) ปลาหมึกยักที่เสี่ยแกนำมาหมักไว้หนวดใหญ่มากๆ ย่างพอสุกหั่นจิ้มแจ่วเป็นกับแกล้มได้ดีจริงๆ ออกเค็มนิดๆ ประสาสัตว์ทะเล กินพอเหล้าหมดขวดจึงนอนตอนตี 2 พอดี
25 ตค 53 กินต่อ ทำบุญที่วัดถ้ำซับมืด ซดส้มตำระเบิด และเดินทางกลับ
ได้ยินว่าซับมืดวันนี้มีบุญทอดกฐิน ผมตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปวัดกับเพื่อนๆ และหลานๆ พวกเราไปถึงตอน 11.00 น. มีคนไปกันเยอะ ไม่เว้นแม้แต่คนไข้ ICU ยังอุตส่าห์ขนขึ้นรถพยาบาลไปด้วย ผลการรับบริจาควันนี้ได้เงินมากว่า 6 แสนบาท โดยเงินส่วนใหญ่มาจากทั่วทุกสารทิศ โดยเฉพาะกว่าครึ่งได้จากทีมงานจาก จ.นครนายก ชาวบ้านที่นี่มีพระที่นับถือศรัทธาที่ผมจำได้ก็มีหลวงปู่ทา ผู้ล่วงลับไปแล้วและผมได้ไปสักการะที่กุฏิของท่านด้วย อัฐิของท่านเป็นแก้ว (เหมือนอย่างที่เคยเห็นพระเถระดังๆหลายท่าน)
วัดแห่งนี้อยู่บนภูเขา และที่ผ่านมามีการก่อสร้างเจดีรูปร่างคล้ายๆ ปฐมเจดีขนาดเล็กสูงเด่นเป็นสง่าบนภูเขา เจ้าอาวาสของที่นี่คือหลวงพ่อสุพี ซึ่งในโอกาสนี้ได้จัดทำเหรียญรุ่นแรกออกมาแจกบรรดาศาสนิกชนทุกคน ผมเองก็ได้มา 1 เหรียญ
ปากช่อง-โคราช-หนองแวง
บ่าย 2 ผมเดินทางกลับจากปากช่องด้วยรถตู้ ราคา 60 บาท ไปลงที่บขส.เก่า นั่งรถ ป.2 จากโคราช-หนองแวง ค่ารถ 80- โชคดีที่รถที่นั่งมามีคนบ้านเดียวกันจึงขอติดรถไปด้วย มาถึงบ้านเวลา 19.30 น. นั่งรอพ่อกลับมาแล้วกินข้าวด้วยกัน คุยกันเล็กน้อย
26 ตค 53 กลับขอนแก่น
ตอนเช้าโทรหาลุงวร (บ้านหมี่ ลพบุรี) นั่งคุยกับยาย ได้พรมาหลายบทแสนจะจำยาก ยายเล่าเรื่องราวเก่าๆให้ฟังเยอะแยะมากมายจนจำไม่หวาดไม่ไหว จากนั้นก็กินนึ่งกบใส่ดอกแคร์ อร่อยไม่หยอกแฮะ แล้วพ่อมาส่งขึ้นรถป.2 โคราช-อุดร ไปลงขอนแก่น ด้วยค่ารถ 70 บาท
ยายมูล นนทะนำ ยายแท้ๆ อายุ 95 ผู้เป็นที่เคารพรักของผู้คนในหมู่บ้านให้พรผมมา ผมจำๆ จดๆอย่่างไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าใดนัก แต่รู้ว่าเป็นพรที่เป็นมงคล
ส่งของขึ้นชาญทัวร์ จากขอนแก่น-อุดร ใช้เวลา 20 ชั่วโมง
ผมส่งพัสดุจากขอนแก่นไป จ.อุดรฯ ด้วยกล่อง 3 กล่องจากเวลา 14.00 แล้วคอยโทรเช็คที่ปรับอากาศอุดร ตอน 17.00 ก็ยังไม่พบว่าของมาถึงอุดรซักที จนครั้งสุดท้ายที่โทรคือเวลา 19.00 ของยังไปไม่ถึงอุดรเลย ได้รับคำอธิบายจากพนักงานชาญทัวร์ว่ารถยังไม่เข้ามา ให้โทรเช็คอีกทีตอนเที่ยงพรุ่งนี้ และได้รับโทรศัพท์แจ้งจากเพื่อนที่อุดรเวลาราวๆเที่ยงของวันที่ 25 ว่าพึ่งได้รับของ เฮ้อ...ต่อไปคงไม่ใช้บริการมันแล้วล่ะ ค่าส่งก็แพงตั้ง 300 บาท และไม่รู้ด้วยว่าของจะขึ้นรถคันไหน เวลาเท่าไรจะถึง ที่เลือกบริษัทนี้เนื่องจากมีรถไป จ.อุดร และไม่แน่ใจว่าที่ บขส.จะมีบริการรับส่งของหรือไม่ เรื่องนี้ต้องไปสอบถามดูอีกที เนื่องจากบางครั้งเราต้องการส่งของด่วนแล้วถ้าเจอกรณีแบบนี้อีกจะทำให้เสียงานได้ บ้าชิบ...
ขอนแก่น-ปากช่อง บนรถชาญทัวร์ราคาไม่คุ้ม
ออกจากขอนแก่นเวลา 15.30 น. ด้วยรถทัวร์ ป.1 ชาญทัวร์ ด้วยราคาตั๋ว 381 บาท (ไอ้ห่านี่มันตั๋วขอนแก่น-กรุงเทพฯ นี่หว่า เราซื้อไปได้ไงวะ) แต่เนื่องจากไม่มีเวลาหารถอีกแล้ว เพราะบริษัทอื่นมีรถช่วงค่ำ ส่วนนครชัยแอร์นั้นถึงจะมีรถตลอดบ่ายถึงดึก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะยินดีจอดรถให้ที่ปากช่องหรือไม่ คนเดินทางค่อนข้างน้อย ผมขึ้นไปนั่งบนรถไม่นานพนักงานก็แจกขนมเน่าๆ (ขนมปังใส้สังขยา กินเข้าไปคำแรกแทบอ้วก เพราะเริ่มมีกลิ่นสังขยาและมีรสเปรี้ยวเฝื่อนเขามาปนลิิ้นแล้ว) ไม่ต้องพูดถึงอาหารใส่กล่องอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือผัดไทยใส่ไข่ หมูสับกลิ่นอับๆ ไม่น่ากินเลย ผมเสียบไว้ที่ที่เก็บอาหารหลังเบาะนั่งโดยไม่อยากใส่ใจเท่าไรนัก
ระหว่างทางเข้าพิมายก็เริ่มพบน้ำท่วมตามข้างทาง ไร่นาชาวบ้าน บ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างมาก บางช่วงมีน้ำท่วมถนนมิตรภาพสูงประมาณ 6 นิ้ว ตามข้างทางเต็มไปด้วยน้ำยาวไปเรื่อยๆ จนถึงตัวเมืองโคราช แม้ทางเลี่ยงเมืองก็ได้รับความเสียหาย น่าสงสารชาวบ้านแถบนั้นมาก เป็นที่น่าสังเกตว่าเส้นทางสายมิตรภาพที่ผ่านตัวเมืองนั้นจะถูกแบ่งเป็น 3 เส้น คือ 1) จอหอ-วิทยาลัยครู-ผ่านหน้า รร.สุรนารี 2) เส้นตรงไป บขส.2 ผ่านหน้าพีกาซัส และ Big C และ 3) ถนนสายเลี่ยงเมือง ผมวิเคราะห์จากสภาพที่เห็นว่าปัญหาน้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกหนักและน้ำที่เอ่อล้นจากการระบายน้ำจากเขือนลำตะคองที่อยู่ทิศเหนือของเมืองโคราชนั้นเนื่องจากมีถนนมิตรภาพขวางเส้นทางน้ำไหล รวมทั้งอาคารบ้านเรือนที่แน่นขนัดทำให้เกิดน้ำขังอย่างหนัก และเมื่อล้นถนน 3) น้ำจะไหลเข้าสูงตรงกลางเมืองคือเส้นที่ 2 ที่มีถนนเส้น 1 ขวางอยู่มีลักษณะเป็นแอ่งอย่างเห็นได้ชัดทำให้พื้นที่แห่งนี้เกิดน้ำขังหนักที่สุดและประกอบกับลำน้ำสาขาของลำตะคองนั้นไหลผ่านตัวเมืองทำให้ซ้ำเติมสภาวะน้ำท่วมยิ่งขึ้นไปอีก อาคารพาณิชย์ บ้านเรือน และโรงพยาบาลเสียหายหนัก รถยนต์หลายคนได้รับความเสียหาย การช่วยเหลือก็ทำได้ยาก สภาพน้ำท่วมยังพบเห็นไปถึง อ.กุดจิก และสีคิ้วด้วย โดยเฉพาะทิศเหนือของถนนมิตรภาพ
19.30 บ้านเสี่ยเต้ง ต้มไก่, ย่างหมึกพอล
ไปถึงปากช่องนั่งรอเสี่ยเต้งที่โลตัส ซดกาแฟขมไป เอสเพรสโซ่ ไป 1 แก้ว (ขมตายไม่เอาเรื่อง) พอไปถึงบ้านเสี่ยเต้งก็พบว่าหมอศักดิ์, ที่เทอร์ดกำลังช่วยกันจัดการกับไก่อยู่ หมอศักดิ์ต้อนรับด้วยเลือดไก่ลวกแกล้มหงษ์ทอง รสหวานๆ แปลกๆ กินไปกินมาถึงรู้ว่าเลือดนั้นลวกไม่สุก มีเลือดแดงๆไหลออกมาเป็นที่สยอดสยองสุดๆ ... ผมเดินเข้าไปในครัวไปช่วยสับไก่ แถมแอบดูเคล็ดลับการถอนขนไก่ของพี่เทอร์ดศักดิ์ นั้นแกใช้ทัพพีขูดขนออกสะอาดโครตๆ ส่วนน้ำจิ้มหมึกพอลนั้นเป็นน้ำจิ้มทะเลที่ปุ๊ (เมียเสี่ยเต้ง) เป็นคนทำ เห็นบอกว่าใช้มะนาว, น้ำปลา, น้ำตาล, กระเทียม และใช้พริกขี้หนูสวนตำเพื่อให้ได้กลิ่นหอมๆของพริก รสชาติปะแล่มๆ ดี ส่วนต้มไก่สูตรหมอศักดิ์ ขานี้เขาทำรสป่าๆ โดยต้มใส่ข่า, เกลือ น้ำใสๆ แล้วใส่พริกแห้งปรุงในถ้วยตอนไก่สุกแล้ว น้ำปลานิดหน่อย ดูเหมือนไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่ก็อร่อยดี สมเป็นกับแกล้ม ทุกอย่างเผ็ดจนซู๊ดปาก (ดีกับท้องในยามพะอืดพะอมและขี้ไม่ค่อยออก) ปลาหมึกยักที่เสี่ยแกนำมาหมักไว้หนวดใหญ่มากๆ ย่างพอสุกหั่นจิ้มแจ่วเป็นกับแกล้มได้ดีจริงๆ ออกเค็มนิดๆ ประสาสัตว์ทะเล กินพอเหล้าหมดขวดจึงนอนตอนตี 2 พอดี
25 ตค 53 กินต่อ ทำบุญที่วัดถ้ำซับมืด ซดส้มตำระเบิด และเดินทางกลับ
ได้ยินว่าซับมืดวันนี้มีบุญทอดกฐิน ผมตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปวัดกับเพื่อนๆ และหลานๆ พวกเราไปถึงตอน 11.00 น. มีคนไปกันเยอะ ไม่เว้นแม้แต่คนไข้ ICU ยังอุตส่าห์ขนขึ้นรถพยาบาลไปด้วย ผลการรับบริจาควันนี้ได้เงินมากว่า 6 แสนบาท โดยเงินส่วนใหญ่มาจากทั่วทุกสารทิศ โดยเฉพาะกว่าครึ่งได้จากทีมงานจาก จ.นครนายก ชาวบ้านที่นี่มีพระที่นับถือศรัทธาที่ผมจำได้ก็มีหลวงปู่ทา ผู้ล่วงลับไปแล้วและผมได้ไปสักการะที่กุฏิของท่านด้วย อัฐิของท่านเป็นแก้ว (เหมือนอย่างที่เคยเห็นพระเถระดังๆหลายท่าน)
วัดแห่งนี้อยู่บนภูเขา และที่ผ่านมามีการก่อสร้างเจดีรูปร่างคล้ายๆ ปฐมเจดีขนาดเล็กสูงเด่นเป็นสง่าบนภูเขา เจ้าอาวาสของที่นี่คือหลวงพ่อสุพี ซึ่งในโอกาสนี้ได้จัดทำเหรียญรุ่นแรกออกมาแจกบรรดาศาสนิกชนทุกคน ผมเองก็ได้มา 1 เหรียญ
เจดีที่ตั้งอยู่บนยอดเขา มองเห็นไกลๆ
เสี่ยเต้ง น้องฟาง หมอศักดิ์ (คนทำส้มตำระเบิด) และน้องมัดหมี่
ผมเอง หลังจากได้เหรียนหลวงพ่อสุพีมาแล้ว อิๆ...
บริเวณหน้าศาลา และทางขึ้นเจดี
มัดหมี่
ภายในศาลา
กลับมาที่บ้านเสี่ย ผมฝานมะละกอเพื่อเตรียมทำตำระเบิด โชว์ฝีมือโดยหมอศักดิ์อีกตามเคย แซ่บสมคำร่ำรือ ส่วนผสมหลักๆ คือ ปลาร้าตัวเบ้อเร่อ, พริก, หมึกพอลลวกหั่นคล้ายๆ หอยลวก, น้ำตาลปิ๊ป, น้ำปลา หมอศักดิ์บอกเทคนิคว่าขั้นแรกตำพริกกระเทียมแล้วใส่ปลาร้า, น้ำปลา, น้ำตาล และคนให้เข้ากันก่อนจึงค่อยใส่มะละกอ, มะเขือเทศ บางครั้งอาจใส่มะขามตามชอบปากช่อง-โคราช-หนองแวง
บ่าย 2 ผมเดินทางกลับจากปากช่องด้วยรถตู้ ราคา 60 บาท ไปลงที่บขส.เก่า นั่งรถ ป.2 จากโคราช-หนองแวง ค่ารถ 80- โชคดีที่รถที่นั่งมามีคนบ้านเดียวกันจึงขอติดรถไปด้วย มาถึงบ้านเวลา 19.30 น. นั่งรอพ่อกลับมาแล้วกินข้าวด้วยกัน คุยกันเล็กน้อย
26 ตค 53 กลับขอนแก่น
ตอนเช้าโทรหาลุงวร (บ้านหมี่ ลพบุรี) นั่งคุยกับยาย ได้พรมาหลายบทแสนจะจำยาก ยายเล่าเรื่องราวเก่าๆให้ฟังเยอะแยะมากมายจนจำไม่หวาดไม่ไหว จากนั้นก็กินนึ่งกบใส่ดอกแคร์ อร่อยไม่หยอกแฮะ แล้วพ่อมาส่งขึ้นรถป.2 โคราช-อุดร ไปลงขอนแก่น ด้วยค่ารถ 70 บาท
ยายมูล นนทะนำ ยายแท้ๆ อายุ 95 ผู้เป็นที่เคารพรักของผู้คนในหมู่บ้านให้พรผมมา ผมจำๆ จดๆอย่่างไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าใดนัก แต่รู้ว่าเป็นพรที่เป็นมงคล
มือ 10 นิ้ว คือเกษเกษา
ถวายบงคม กราบลงแล้วก้ม
ขอให้ม่มบ้างบาศปาดปัง
พวยไพศาลบ่ให้มีมาใกล้
แม่บ่มีหยังให้สิเอาคำแจกจ่าย
พอเป็นดอกเบี่ยเมียหน้าแผ่ผล
นอนหลับให้ได้เงินพัน
นอนฝันให้ได้เงินหมื่น
นอนตื่นให้ได้เงินแสน
แบนมือไปให้แก้วได้โชค
โทษฮ่ายอย่ามาพาล
มารฮ่ายอย่ามาบังเบียด
ขี้เดียจจังไรหนีไปไกลๆ
อายุ วรรณโณ สุขขัง พะลัง...
ถวายบงคม กราบลงแล้วก้ม
ขอให้ม่มบ้างบาศปาดปัง
พวยไพศาลบ่ให้มีมาใกล้
แม่บ่มีหยังให้สิเอาคำแจกจ่าย
พอเป็นดอกเบี่ยเมียหน้าแผ่ผล
นอนหลับให้ได้เงินพัน
นอนฝันให้ได้เงินหมื่น
นอนตื่นให้ได้เงินแสน
แบนมือไปให้แก้วได้โชค
โทษฮ่ายอย่ามาพาล
มารฮ่ายอย่ามาบังเบียด
ขี้เดียจจังไรหนีไปไกลๆ
อายุ วรรณโณ สุขขัง พะลัง...
อีกบทหนึ่งเอาไว้สำหรับทำกิจการต่างๆ เช่น ย้ายบ้าน ทำการงาน ฯลฯ
พระบุญสงค์
นางพนงค์
กงพะนี
นางน้อยธรณี
ผู้ปั้นดินให้อยู่
(แล้วทำท่ากำดินใส่หัว เพื่อความเป็นมงคล)
นางพนงค์
กงพะนี
นางน้อยธรณี
ผู้ปั้นดินให้อยู่
(แล้วทำท่ากำดินใส่หัว เพื่อความเป็นมงคล)
เท่านี้แหละที่ได้มาตอนแวะบ้านห้วยม่วง ต.โนนจาน กิ่ง อ.บัวลาย จ.โคราช ถิ่นเกิด
Link
Link
Subscribe to:
Posts (Atom)