เช้าวันแข่งขัน 27 ส.ค. 54 อากาศแจ่มใส เวลาประมาณ 9.00 น. ผมออกไปรวมตัวกับพี่ๆน้องๆที่คณะฯ เพื่อเตรียมของและอุปกรณ์บางส่วน พวกจาน, แก้วน้ำ, กระติกน้ำ, เขียง, มีด, ครก, สาก (สำหรับทำย่างพวงนมที่ผู้กองปีเตอร์บอกว่าจะขนมาจากร้อยเอ็ด) แล้วทยอยกันมาที่สนามโรงเรียนสาธิตศึกษาศาสตร์ สมาชิกในทีมบางส่วนเริ่มทยอยมากันบ้างแล้ว โดยสำหรับปีนี้ประกอบด้วย- พี่ฐา PH 13 ที่มารับหน้าที่ผู้รักษาประตูรุ่นน้อง พี่ที่อยู่กับทีมมานานที่สุด เก๋าสุดแล้ว
- PH 14 ปีนี้มา 3 คน ได้แก่ ผม (โจ้), ยัน และไข่
- PH 17 ซึ่งเป็นสมาชิกทีมส่วนใหญ่ของ "บัณฑิตโชว์" ไม่ว่าจะเป็น ผู้กองปีเตอร์, ต้น, เม้ง, อ้อย, แอนดริว, วัช, เจี๊ยบ, โจ้, ริกกี้
พวกเราคุยกันว่า ดูเหมือนปีนี้ทีมบัณฑิตโชว์จะมีสมาชิกร่อยหรอลง ไม่เหมือนกับทุกปี โดยเฉพาะปีที่แล้วที่มารวมตัวกันมากมายเป็นประวัติกาล และดูเหมือนจะเป็นทีมที่ฮาที่สุด เนื่องจากมีทั้งบาร์เบียร์, ย่างเนื้อ และสุรา จนน้องๆสโมสรติงกันมามากมาย สำหรับปีนี้พวกเราจึงพยายามซ่อนความเมาไว้เบื้องลึก เผยออกมาแต่ความน่ารักแต่พองาม
ริกกี้เอารองเท้า PAN Destroy 4 ที่ผมใส่ตั้งแต่ปี 2010 มาคืนผม ไม่น่าเชื่อ ผมพูดกับเขาว่า "อ่ะ ยังอยู่อีกเหรอคู่นี้ สภาพยังดีอยู่เลย ขอบใจมากนะริกกี้..." จำได้ว่าปีกลายริกกี้คนนี้ใส่สตั๊ดคู่นี้ตั้งแต่แข่งในสนามตอนกลางวัน แล้วเขาไม่ยอมถอดเลยจนถึงภาคกลางคืนที่ไปฉลองกันที่ร้าน "ป่ากลางเมือง" ถิ่นสถานของรุ่นพี่คนหนึ่งของพี่กานต์ แล้วเรื่อยไปจนถึงผับ "Top West" จนกระทั่งตอนเช้าที่เขากลับระยอง...คิดว่าวันนั้นและคืนหลอนวันนั้นเขาคงจะไม่ได้อาบน้ำด้วยกระมัง ปีนี้ผมเห็นเขาใส่รองเท้าผ้าใบมา ก็เลยถามว่า "แล้วไม่ใส่เหรอ ?" เขาบอก "ไม่เป็นไรครับ"
จนเหลือบไปเห็นโจ้ PH 17 ผมจึงให้โจ้ยืมใส่ และเขาก็ใส่ได้พอดีซะด้วยสิ โจ้เล่นได้หลายตำแหน่ง ผมว่าเขาควรจะใ่ส่มัน
นัดแรก บํณฑิตโชว์ชนะ วทบ.3 2-1
นัดแรกที่เตะกันตั้งแต่ 10 โมงเช้านั้นมีแข่งกันทั้งหมด 4 สนาม พวกเราบัณฑิตโชว์วอร์มร่างกายเล็กน้อย แสงแดดอ่อนๆ ลมโชยเบาๆ เหมาะแก่การเริ่มเล่นในเช้านี้นัก ผมรับหน้าที่จัดทีมได้เลือกน้องๆที่คิดว่าฟิตที่สุดลงสนาม โดยกองหน้าประกอบด้วยปีเตอร์จอมตะลุยโคลน ต้น เม้ง ส่วนกองหลังผมเองยืนเซนเตอร์คู่กับเจี๊ยบ มีโจ้อยู่ฝั่งซ้าย
"บัณฑิตโชว์...สู้ !" พวกเรารวมกันเพื่อเรียกกำลังใจ อันเป็นธรรมเนียมประจำของเรา
เริ่มเกมส์ได้ไม่นานรู้สึกว่าเกมส์ออกจะฝืดๆทั้งสองฝั่ง น้องๆปี 3 ก็ใช่ว่าจะเร็วเท่าใดนักเพียงแต่การต่อบอลดูจะดีกว่าเราที่วิ่งไปคนละทิศละทาง น้องๆมีโอกาสขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ผ่านมือของพี่ฐา PH 13 ที่ปีนี้ดูฟิตกว่าทุกๆปี พี่ฐาทำให้เราสบายใจขึ้นเยอะ
ผมจำไม่ได้ว่านาทีไหนที่เราโดนนำไปก่อน 1-0 แล้วหมดครึ่งแรกไปอย่างรวดเร็ว...อะไรกันนี่ ฝนเริ่มโปรยปรายลงมาล้างเหงื่อชุ่มๆ เราซึมไปนิด ริกกี้เดินมาถามผมว่า..."โค้ชครับ แก้เกมส์ยังไงดี ?" ผมมองใบหน้าเหียวๆของเขาด้วยความคิดที่หมุนแล่น แล้ววางแผนในใจอย่างรวดเร็ว ผมให้เพื่อนไข่ลงมาเล่นคู่กับปีเตอร์ แล้วบอกทุกคนให้มีสมาธิในการเล่น และบอกให้ตัดเกมส์ตั้งแต่แดนกลางแล้วต่อบอลสู่กองหน้าให้ได้ พร้อมๆกับช่วยกันไล่ให้สุดอย่าให้น้องปี 3 บุกขึ้นมาป้วนเปี้ยนหน้าประตู
เริ่มเกมส์ครึ่งหลัง พวกเราแทบพับสนามบุก และทำได้ตามแผนซะด้วย โดยลูกแรกเราเอาคืนตีเสมอ 1-1 ได้จากผมเองแหละ (หุๆ...ธรรมดาที่หนายยยยย) หลังจากลำเลียงบอลไปฝั่งขวาโดยการประสานงานกันระหว่างผม, ปีเตอร์, เพื่อนไข่ บอลมาเข้าเท้าผมพอดี ผมยิงโดยไม่ได้บรรจงอะไรมาก บอลลอดขาผู้รักษาประตูทะลุเข้าไปอย่างสวย พวกเราดีใจกันใหญ่ที่สามารถตีตื้นขึ้นมาได้
หลังจากนั้นน้องปี 3 พยายามทำเกมส์ขึ้นมาแต่เกมส์บุกทำอะไรบัณฑิตโชว์ไม่ได้มากนัก จนกระทั่งจังหวะที่เราขึ้นนำ 2-1 โดยเพื่อนไข่ (จำเหตุการณ์ไม่ได้ว่ายิงเข้าแบบไหน) เพื่อนไข่ที่วันนี้เล่นได้ดี โดยการดึงเกมส์และครองบอลเรียกกองหลังไปได้หลายคน เกมส์ยังคงดำเนินต่อไปจนกรรมการเป่าหมดเวลาครึ่งหลัง พวกเราชนะแล้วหลังจากรอมานานเป็นปี...555 ทุกอย่างเริ่มผ่อนคลาย ได้ยินเสียงเชียร์จากน้องๆข้างสนามเป็นที่ครึกครื้น "บัณฑิตโชว์สู้ๆ", "บัณฑิตโชว์เค้าเชียตัวนะ", "หน้าตาดีๆๆๆ" โดยเฉพาะประโยคหลังๆ เล่นเอาพี่ๆขวยเขิล ถูกใจเป็นพิเศษ หุๆ โดยเฉพาะเม้ง PH 17 ที่เวลานี้ดี๊ด๊าเป็นพิเศษ...อิๆ
พวกเรากลับเข้าที่พักที่ตอนนี้เริ่มกลายเป็นกองกระเป๋าผ้าเยอะแยะไปหมด พักดื่มน้ำและสปอนเซอร์พอแก้กระหาย ได้ยินเสียงปีเตอร์ร้องทักทายน้องๆกองเชียร์กันสนุก "น้องๆ เชียร์อีก 2 นัดแบบนี้เดี๋ยวพี่ให้ 1,000 นึง" คำสัญญาของปีเตอร์ทำให้น้องๆกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ แต่พี่ๆบางคนเริ่มมองหน้ากัน พลางกระซิบกันทำนองว่า ปีเตอร์จะเอาเงินนั่นมาจากไหนนะ เอ...รึว่าจะมาเรี่ยไรจากพวกเราหว่า...
คิดในใจยังไม่ทันจบ ปีเตอร์ที่ตอนนี้ดูจะเป็นสัญลักษณ์ของทีมไปอีกแล้ว เขาจัดแจงพวงนมที่เตรียมไว้มาวางท่ามกลางสายฝนโปรยปราย ฟ้าเริ่มมืดดำ แต่หาได้ทำลายความตั้งใจของพวกเราไม่ เหล้า Red ฉบับลาวขวดละ 2 ลิตรถูกงัดออกมา พร้อมๆกับแผงโซดาที่วางเกลื่อน และยังเหลือ Red ขวดละ 1 ลิตรบรรจุในกล่องอีกนั่น...ความจริงแล้วคงไม่ไ้ด้กะจะกินให้หมดนี่หรอกนะ แต่แค่เอามาโชว์เฉยๆ
ผมทำตัวดูดีนิสนึง โดยการตักเตือนน้องๆให้หาถุงหรืออะไรซักอย่างห่อขวดเหล้าไว้ ป้องกันสายตาคนผ่านมาผ่านไป (โดยเฉพาะ รปภ.) เป็นระเบียบของมหาลัยที่ห้ามไม่ให้มีการซื้อ, ขาย, ดื่มกินสุราในบริเวณมหาลัย (แต่บางครั้งอะไรบางอย่างก็ห้ามไม่ได้ ...พวกเราจึงเตรียมการณ์มาอย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นแก้วพลาสติก...ส่วนปีเตอร์นั่นเขาใช้ขวดน้ำดื่มสีแดงประจำตัวเขา) อ้อ...ถึงอย่างไรช่วงนี้ผมก็ละเว้นจากแอลกอฮอล์นะ ไม่ใช่เพราะเข้าพรรษา แต่รู้สึกที่ผ่านมาผมดื่มและเที่ยวไม่ยั้ง เลยอยากลองพักมองโลกอีกด้านเท่านั้น
ปีเตอร์ถามผมถึงบีขมๆที่เคยให้มา ทำเอาผมรู้สึกแย่กับตัวเองที่ลืมเอามาเมื่อเช้า เลยถือโอกาสเป็นคนไปซื้อเครื่องปรุง เครื่องหมักนม จำพวกกระเทียม, พริก, ข้าวคั่ว, ผักหอม, ผักชี รวมทั้งเหล็กย่างและเตา ขับรถไปกับอ้อยได้ซักพักก็กลับมาพร้อมของครบมือ...เวลานั้นน่าจะประมาณเที่ยงได้แล้ว ฝนเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาจนมองแทบไม่เห็นทาง พวกเราหลายคนซุ่มอยู่ในที่พัก (ทางเดินที่มีหลังคามุง) เพื่อหลบฝน มองไปรอบๆปรากฎว่าไม่มีน้องๆอยู่แล้ว เพราะเป็นเวลาเที่ยงที่ทุกคนพักและไปหาอะไรกินกัน
ปีเตอร์และโจ้ ช่วยกันหมักนม ก่อไฟ และเริ่มย่างพวงนมส่งกลิ่นหอมยั่วยวน น้องๆบางคนที่เดินผ่านมาผ่านไปทำหน้าตาประหลาดและรู้สึกขำพวกเรา "อุ๊ย...มีเตาด้วย, มีเขียงด้วย, มีครกด้วย..." อืม...คงเป็นอะไรที่ประหลาดมากสินะ หุๆ ส่วนน้องๆแอบๆบางคนเดินมามาเห็นเข้าก็เริ่มจะแซวพี่ "พี่จ๋า มีใครช่วยย่างยังจ๊ะ" แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครใส่ใจเท่าไรนัก ผมรับหน้าที่ย่างพวงนมชุดแรก ซึ่งมีรอยไหม้นิดหน่อย แต่เคี้ยวดีกรุบกรอบหอมฉุยจนน้องๆบางคนหันมอง...
กินข้าว (ย่างนม)
โทรหาฟาร์
กินน้ำ
ซื้อเตา, ถ่าน, เครื่องปรุง
ฝนตกอย่างหนัก
สนามเละเทะ
นัดสอง บัณฑิตโชว์-ปีศาจสาสุข เสมอ 1-1 บัณฑิตโชว์ชนะจุดโทษ 3-2 พี่ฐาเซฟสุดยอด !
นัดสาม บัณฑิตโชว์-PH Old Star เสมอ 2-2 บัณฑิตโชว์ชนะจุดโทษ 3-2 พี่ฐาเซฟสุดยอด ! อีกแล้ว...
นัดสี่ (8 ทีม) บัณฑิตโชว์แพ้น้องปี 1 : 2-0
ภาคกลางคืน
Orange
ชา
ตี 2
ทิ้งท้าย