Saturday, December 17, 2016
ทริปเชียงคาน & ภูเรือ (10-12 ธค. 59)
จบไปแล้วกับทริปเชียงคาน & ภูเรือ เพื่อตามหาน้องคำแก้ว...ขับรถเลาะริมโขงจากหนองคายถึงเชียงคาน รุ่งขึ้นเราบุกไปถึงภูเรือ
กับการเดินทางของชายหนุ่ม 4 คน (อ้ายมา 4 คน...!)
Tuesday, December 13, 2016
Monday, October 10, 2016
ข้ามภพ ข้ามชาติ
ข้ามภพ ข้ามชาติ
ครู ข้างวังฯ เขียน
เรื่องจริงผสมเรื่องแต่ง ที่ครูหมวดศิลปะท่านหนึ่งได้เขียนเรื่องที่บังเอิญพบรูปของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับลูกศิษย์ของเขาชื่ออรวรรณ แล้วบันทึกไว้ในเฟสบุ๊ค แล้วเรื่องของเรื่องคือยอดกด like ที่ถล่มทลาย และตามมาด้วยกระแสเรียกร้องให้เขียนเพิ่มอยู่เรื่อยๆครั้งละตอน จนสามารถรวมเล่มเป็นหนังสือเล่มนี้เมื่อปี พ.ศ.2559 เป็นเรื่องของเด็กหญิงอรวรรณซึ่งฝันถึงเด็กหญิงอมรศรีซึ่งเสียชีวิตไปแล้วและเคยเป็นเพื่อนกันเมื่อชาติที่แล้ว ในฝันนั้นอมรศรีมาเพื่อบอกให้อรวรรณทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนชื่อบัวคลี่เมื่อชาติก่อน ซึ่งบัวคลี่ในปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ อายุประมาณ 98 ปี โดยสภาพร่างกายเริ่มอ่อนแอ ความทรงจำเลือนลางเต็มที อรวรรณต้องตามหาคุณยายบัวคลี่ให้พบเพื่อสอนให้รำโนรา ...!!!
นับว่าเป็นเรื่องที่อ่านแล้วชวนขนลุกตลอดเวลาเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงบางช่วงบางตอน น่าติดตามอ่านจนหากได้อ่านแล้วจะวางแทบไม่ลง เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ผมอ่านพรวดเดียวจบภายในหนึ่งวัน และตื่นเต้นแกมขนลุกซู่ตลอดเวลาที่ได้อ่าน กับเรื่องราวการตามหาคุณยายบัวคลี่ พ่อขุนศรีศรัทธา มโนรา เงาะป่า สวนสุนันทา สงขลา และพัทลุง
รับรองติดใจกับการอ่านเรื่องราวของรำโนรา อันเป็นศิลปะของภาคใต้ และเรื่องราวอีกหลายด้านของจังหวัดพัทลุง
ครู ข้างวังฯ เขียน
เรื่องจริงผสมเรื่องแต่ง ที่ครูหมวดศิลปะท่านหนึ่งได้เขียนเรื่องที่บังเอิญพบรูปของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับลูกศิษย์ของเขาชื่ออรวรรณ แล้วบันทึกไว้ในเฟสบุ๊ค แล้วเรื่องของเรื่องคือยอดกด like ที่ถล่มทลาย และตามมาด้วยกระแสเรียกร้องให้เขียนเพิ่มอยู่เรื่อยๆครั้งละตอน จนสามารถรวมเล่มเป็นหนังสือเล่มนี้เมื่อปี พ.ศ.2559 เป็นเรื่องของเด็กหญิงอรวรรณซึ่งฝันถึงเด็กหญิงอมรศรีซึ่งเสียชีวิตไปแล้วและเคยเป็นเพื่อนกันเมื่อชาติที่แล้ว ในฝันนั้นอมรศรีมาเพื่อบอกให้อรวรรณทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนชื่อบัวคลี่เมื่อชาติก่อน ซึ่งบัวคลี่ในปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ อายุประมาณ 98 ปี โดยสภาพร่างกายเริ่มอ่อนแอ ความทรงจำเลือนลางเต็มที อรวรรณต้องตามหาคุณยายบัวคลี่ให้พบเพื่อสอนให้รำโนรา ...!!!
นับว่าเป็นเรื่องที่อ่านแล้วชวนขนลุกตลอดเวลาเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงบางช่วงบางตอน น่าติดตามอ่านจนหากได้อ่านแล้วจะวางแทบไม่ลง เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ผมอ่านพรวดเดียวจบภายในหนึ่งวัน และตื่นเต้นแกมขนลุกซู่ตลอดเวลาที่ได้อ่าน กับเรื่องราวการตามหาคุณยายบัวคลี่ พ่อขุนศรีศรัทธา มโนรา เงาะป่า สวนสุนันทา สงขลา และพัทลุง
รับรองติดใจกับการอ่านเรื่องราวของรำโนรา อันเป็นศิลปะของภาคใต้ และเรื่องราวอีกหลายด้านของจังหวัดพัทลุง
Saturday, October 08, 2016
"ใส้เดือนตาบอดในเขาวงกต"
"ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต"
วีรพร นิติประภา
รางวัลซีไรต์ ปี พ.ศ.2558
คำโปรยบนปก ฉบับพิมพ์ครั้งแรก ปี 2556 "น้ำเน่า ร้าวราน สามเส้า เพ้อฝัน มายาคติแสนธรรมดาของเรื่องรักกับความขัดแย้ง"
นวนิยายเรื่องราวความรักโรแมนติกที่มีเสน่ห์ตรงความสามารถในการผสมกับความเป็นน้ำเน่าได้อย่างลงตัว บรรยายเรื่องราวไปอย่างช้าๆ เนิบนาบ แฝงไว้ด้วยความสวยงามของภาษาที่ใช้บอกเล่าเรื่องราว อารมณ์ ความรู้สึก บรรยากาศรอบข้างได้อย่างแยบยล ช่วยให้นวนิยายดำเนินเรื่องไปอย่างมีสีสัน เวิ่นเว้อ เยอะจัด ทีลีลาการใช้ภาษาไทย "มีเสน่ห์" อย่างร้ายกาจ จนผมต้องกลับมาอ่านซ้ำอีกรอบหนึ่ง หลังจากที่พึ่งอ่านจบไป...
ชาลียาและปราณมักหาเวลาอยู่ด้วยกันทุกวันจันทร์ อันเป็นวันที่ชารียาจะทำกับข้าวเมนูหลากหลายทั้งอาหารฝรั่ง ไทย เวียดนาม หลังจากนั้นทั้งคู่ก็จะพักผ่อนนอนอ่านหนังสือคนละเล่ม คลอเคล้ากับบทเพลงออเคสตร้าของบีโทเฟ่น โมซาด และอื่นๆอีกหลายบทเพลง ใช้เวลาเล่นกับแมวคุณเยลโล่ หยอกล้อกันตามประสา แล้วตบท้ายด้วยการดื่มซังกรียารสงานวัดขณะท้องฟ้ากำลังโพล้เพล้...(แหม...ช่างน่าอิจฉา !...#$%)
ชารียานั้นค่อนข้างจะเป็นอาร์ทติสหน่อยๆ เธอมีความรักหลายครั้ง และจริงจังกับทุกครั้ง ทั้งกับธนา นที และปราณ
ปราณเป็นคนพูดน้อย จริงใจ และหวงชารียาอยู่บ้างในบางอารมณ์ เขาเป็นนักดนตรีเคยสัมผัสกับนักดนตรีร็อคอย่างอาภัทร นักกีตาร์หนุ่มลูกหนึ่ง ผู้ทรนง ซึ่งปลูกฝังและชักนำให้ปราณเปลี่ยนบุคลิคเป็นผู้ชายห้าวหาญ อาภัทรนั้นตอนหลังชีวิตเปลี่ยนแปลงอย่างที่สุด...!
ลองหามาอ่านกันดูครับ รับรองจะติดใจ...
วีรพร นิติประภา
รางวัลซีไรต์ ปี พ.ศ.2558
คำโปรยบนปก ฉบับพิมพ์ครั้งแรก ปี 2556 "น้ำเน่า ร้าวราน สามเส้า เพ้อฝัน มายาคติแสนธรรมดาของเรื่องรักกับความขัดแย้ง"
นวนิยายเรื่องราวความรักโรแมนติกที่มีเสน่ห์ตรงความสามารถในการผสมกับความเป็นน้ำเน่าได้อย่างลงตัว บรรยายเรื่องราวไปอย่างช้าๆ เนิบนาบ แฝงไว้ด้วยความสวยงามของภาษาที่ใช้บอกเล่าเรื่องราว อารมณ์ ความรู้สึก บรรยากาศรอบข้างได้อย่างแยบยล ช่วยให้นวนิยายดำเนินเรื่องไปอย่างมีสีสัน เวิ่นเว้อ เยอะจัด ทีลีลาการใช้ภาษาไทย "มีเสน่ห์" อย่างร้ายกาจ จนผมต้องกลับมาอ่านซ้ำอีกรอบหนึ่ง หลังจากที่พึ่งอ่านจบไป...
ชาลียาและปราณมักหาเวลาอยู่ด้วยกันทุกวันจันทร์ อันเป็นวันที่ชารียาจะทำกับข้าวเมนูหลากหลายทั้งอาหารฝรั่ง ไทย เวียดนาม หลังจากนั้นทั้งคู่ก็จะพักผ่อนนอนอ่านหนังสือคนละเล่ม คลอเคล้ากับบทเพลงออเคสตร้าของบีโทเฟ่น โมซาด และอื่นๆอีกหลายบทเพลง ใช้เวลาเล่นกับแมวคุณเยลโล่ หยอกล้อกันตามประสา แล้วตบท้ายด้วยการดื่มซังกรียารสงานวัดขณะท้องฟ้ากำลังโพล้เพล้...(แหม...ช่างน่าอิจฉา !...#$%)
ชารียานั้นค่อนข้างจะเป็นอาร์ทติสหน่อยๆ เธอมีความรักหลายครั้ง และจริงจังกับทุกครั้ง ทั้งกับธนา นที และปราณ
ปราณเป็นคนพูดน้อย จริงใจ และหวงชารียาอยู่บ้างในบางอารมณ์ เขาเป็นนักดนตรีเคยสัมผัสกับนักดนตรีร็อคอย่างอาภัทร นักกีตาร์หนุ่มลูกหนึ่ง ผู้ทรนง ซึ่งปลูกฝังและชักนำให้ปราณเปลี่ยนบุคลิคเป็นผู้ชายห้าวหาญ อาภัทรนั้นตอนหลังชีวิตเปลี่ยนแปลงอย่างที่สุด...!
ลองหามาอ่านกันดูครับ รับรองจะติดใจ...
Sunday, September 25, 2016
ขอความตายจงสถิตอยู่กับท่าน Brother Odd
"ขอความตายจงสถิตอยู่กับท่าน"
ดีน คูนท์ช เขียน
พรรษพร ชโลธร แปล
เรื่องของ อ๊อด โทมัส พ่อครัวของอารามเซนบาทอโลมิว ที่ บราเดอร์ตายอย่างมีเงื่อนงำ มีบราเดอร์ ซิสเตอร์ และเด็กที่มีปัญหาทางร่างกายอาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง อ๊อดมีความสามารถพิเศษ คือสามารถมองเห็นตัวโบดัค ซึ่งมีลักษณะคล้าย ผู้คุมวิญญาณในเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ วันหนึ่งเขาพบโบดัค 3 ตัวจึงตามไปพร้อมบู สุนัคอัลเซเชียนสีขาวของเขา และพบว่าโบดัคได้เข้าไปหาเจคอป เด็กซึ่งมีความสามารถในการวาดภาพ จากนั้นเขาพยายามเล่าสิ่งที่เห็นให้้ซิสเตอร์ และบราเดอร์ได้ทราบและเตรียมกำลังคนไว้สู้กับเหล่าซาตานซึ่งเป็นวิญญาณที่เสกขึ้นจากบราเดอร์อีกคนผู้เสียชีวิตไปแล้ว และกองกำลังของเขาก็ทำสำเร็จสามารถช่วยเจคอปและกำจัดซาตานได้ โดยบราเดอร์คนนึงตายจากการต่อสู้
ตอนจบอ๊อดได้ขอย้ายออกจากอาราม
"ช่างสำราญ" ซีไรต์ปี 2546
"ช่างสำราญ"
เดือนวาด พิมพ์วนา เขียน
เรื่องของ "กำพล ช่างสำราญ"
ตอนแรกเห็นชื่อหนังสือทำให้คิดว่าคงเป็นเรื่องของช่างคนหนึ่งที่ชื่อ "สำราญ" แต่พอเปิดอ่านจึงได้เข้าใจว่า คำว่า "ช่างสำราญ" หมายถึงนามสกุลของเจ้าเด็กน้อย เด็กน้อยกำพลมีพ่อขับรถบรรทุกน้ำ และแม่ที่ทิ้งเขาไปเพราะปัญหาส่วนตัว คือมีชู้ หนังสือบรรยายเรื่องของกำพลซึ่งถูกทิ้งไว้กับเพื่อนบ้านหลายคน เช่น ยายหมอน และตาชง ผู้ดูแลกำพลทุกวันเหมือนลูกแท้ๆ กำพลมีเพื่อนมากมาย เช่น ประสิทธิ์ น้อย ไอ้จั๊วะ ไอ้อ้น เป็นเพื่อนเล่นในตรอก ซอย ในตลาด และโรงเรียน ชีวิตที่อาศัยในสังคมแคบๆและแออัด กำพลรู้จักหาเงินด้วยการนวดให้คนแก่ในซอย หนังสือไม่กล่าวถึงพ่อของกำพลมากนัก อ่านสนุกจนอยากให้มีอีกสักตอน...
Subscribe to:
Posts (Atom)