Saturday, November 21, 2015

ขึ้นราคาเหล้า

ชาวบ้านหลายคนเลิกกินเหล้าขาวแล้ว เพราะเขาหันมากินเบียร์ช้างกันหมด เห็นได้จากเวลากลับบ้านไม่มีเบียร์ยี่ห้อไหนจะขายดีเท่าเบียร์ช้าง รัฐบาลประเทศนี้แก้ปัญหาไม่เป็น หากหวังดีกับประชาชนจริงๆ อยากให้ประชาชนสุขภาพดี ควรปิดโรงงานสุรา (รวมทั้งบุหรี่) ทุกแห่ง ยกเลิกการนำเข้า ยอมเสียรายรับจากภาษี หากเบียร์ขึ้นราคาบ้างสินค้าพวกนี้จะถูกนำเข้าโดยผิดกฎหมาย เราอาจได้ดื่มสุราปลอมๆ เมาแบบปลอมๆ ชีวิตปลอมๆ บางคนอาจจะบอกว่า ให้เลิกดื่มซะก็สิ้นเรื่องเพราะมันทำลายสุขภาพ แต่ไปดูสิ ไม่ว่าที่ไหนยังมีขายอยู่เลย จำกัดอายุคนซื้อเหรอ หึๆ ไม่เห็นจะได้ผล สมัยก่อนเห็นตำรวจจับชาวบ้านทำสาโท แต่เวลาผ่านไปก็อนุญาตให้ขายเหล้าแช่ เปิดเสรี มีเหล้าหลายยี่ห้อไหลเข้าประเทศ เด็กวัยรุ่นเดี๋ยวนี้ดื่มเก่งมากๆ และผมรู้สึกว่าผู้หญิงจะดื่มเก่งกว่าผู้ชาย (สังเกตจากเวลาไปเที่ยว ดูสาวสายเดี่ยวนั่งดูดเหล้ากันเมามันส์ ! ...) ฯลฯ แล้วอยู่ๆ ก็ขึ้นภาษี ขึ้นราคา นี่คือกลลวงของประเทศนี้ที่หวังหาเงินจากประชาชน ทำลายประชาชนของตัวเอง ขึ้นค่าแรง เป็น 230 เพื่อให้วัยแรงงานนำเงินมาซื้อเหล้า และจ่ายค่าครองชีพที่สูงขึ้น (ตลก ก๋วยเตี๋ยวที่เคยซื้อชามละ 20 เดี๋ยวนี้อย่างต่ำก็ 25, ก้อยที่เคยกินจานละ 30 เดี๋ยวนี้ก็อย่างต่ำ 40- ฮึ !) เพื่อนำเงินของประชาชนคนขี้เหล้ามาซื้อยา จ้างหมอ พยาบาลมารักษาโรคตับ ไต ใส้พุงของประชาชน (สุดท้ายไม่ได้อะไร)

่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการหลอกลวงเช่นนี้ และคิดว่าไม่ใช่ทางออกที่ควรจะเป็น เรื่องบุหรี่ก็เช่นกัน ปากว่าตาขยิบ รณรงค์เลิกบุหรี่ แต่ทำไมยังขายอยู่...โรงงานก็ยังเปิดอยู่ หรือเพราะเห็นว่ามันทำรายได้มากแค่นั้น หากเราคิดบนฐานของเงินเราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงิน แต่หากคิดบนฐานของการดูแลสุขภาพ เรื่องพวกนี้จะไม่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองจะตาสว่างเสียที

สุดท้าย...บ่นไปก็เท่านั้น เพราะตัวเองก็ยังชอบดื่มอยู่ สำหรับเรื่องดื่ม/ไม่ดื่ม ผมว่าไม่สำคัญเท่าการควบคุมตัวเองให้ดื่มอย่างพอดี ไม่สิ้นเปลืองเกินไป ไม่เมาเกินไปจนทำงานไม่ได้ ไม่มีปัญหากับลูกเมีย เจ้านาย (และตัวเอง) รับผิดชอบต่อตัวเอง เพื่อนร่วมดื่ม และสังคม ไม่ขับรถเร็ว และออกกำลังกายบ้างก็ดี

นี่มันจะไปกันใหญ่แล้ว ผมเขียนเรื่องนี้ทำไมกัน... แค่อยากบ่นตามประสาจอมยุทธที่รำคาญการทำงานของรัฐบาลเท่านั้นแหละ อย่าคิดมาก

คิดว่าต่อไปจะทำสาโทกินเองแล้วล่ะ ไม่ง้อหรอก เชอะ ไม่แบ่งใคร

No comments: