Monday, May 28, 2007

สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ของ อุดม แต้พานิช

อ่านเจอใน blog ของคุณ zachashop http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=zachashop&group=4 แล้วรู้สึกขำดี อ่านไปยิ้มไป เลยจิ๊กมาฝากครับ ขอบคุณคุณอุดม และเจ้าของ blog ด้วยครับ...


+สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ของ อุดม แต้พานิช+

  • เวลารถติด เลนอื่นมักไปได้เร็วกว่าเลนเราเสมอ
  • ถ้าเราขับรถไม่ทันไฟเขียวเป็นคันสุดท้าย ให้คิดว่าเดี๋ยวเราจะได้ไปเป็นคันแรก
  • ถ้ามีการแนะนำตัวว่า "นี่เพื่อนฉัน" หมายความว่า "แฟนฉัน"
  • ถ้ามีการแนะนำตัวว่า "นี่แฟนฉัน" หมายความว่า "ผัว/เมียฉัน"
  • มนุษย์ต้องการสิ่งที่ตนเองไม่มี
  • แฟนของคนอื่นมักจะสวยกว่าแฟนของตัวเอง
  • เวลาที่เราวิ่งมารับโทรศัพท์จากที่ไกลๆ เมื่อถึงโทรศัพท์ เสียงมันมักจะหยุด เราจะช้าไป 1 จังหวะเสมอ
  • ถ้าแอบรักใครอย่าฝากใครไปบอก บอกด้วยตัวเองจะดีกว่า
  • เวลาสั่งอาหารไว้นานแล้วยังไม่ได้สักทีให้พูดว่าไม่เอาจะได้เร็ว
  • ถ้าเรียกเก็บเงินแล้วไม่มีใครมาเก็บเสียที ให้ลุกขึ้นทำท่าจะกลับทั้งโต๊ะ จะมีพนักงานพุ่งมาทันที
  • ปลูกต้นลั่นทมไว้หน้าบ้านไม่เกี่ยวอะไรกับความทุกข์ระทมของตัวเราเลย
  • ระวังคนขายโรตี ที่เพิ่งเดินออกมาจากป่าละเมาะ, พุ่งไม้, ซอกตึก,อย่าตัดสินใจซื้อจนกว่าเขาจะล้างมือ
  • ไม่มีสัจจะในร้านตัดเสื้อ
  • ระวังคน ที่แสดงออกว่าเป็นคนดีมากๆ
  • อย่าซื้อทุเรียนมาปอกเอง
  • หนังสือดีคือหนังสือที่เราชอบอ่าน, หนังดีคือหนังที่เราชอบดู
  • อยากให้คนอื่นรู้เรื่องที่เรานินทามากๆ อย่าลืมย้ำบ่อยๆ ว่า "อย่าบอกใครนะ"
  • อย่าทิ้งกระดาษชำระไว้ในชามก๋วยเตี๋ยวคนล้างจะเสียความรู้สึก
  • เรียกยามว่าซีเคียวรีตี้ การ์ด ยามจะตั้งใจโบกรถ
  • อย่าซื้ออะไรที่ต้องเอามาซ่อมต่อ
  • รถในเมืองไทยพวงมาลัยอยู่ทางขวา แต่ฝาน้ำมันไม่อยู่ขวาเสมอไป
  • ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนไม่ต้องเอายาสีฟันไปก็ได้ ยังไงเพื่อนต้องมี
  • อย่าเข้าใกล้หมาตอนกินข้าว
  • ตลาด อตก. มาจากคำว่า เอเวอรี่ติง เกินราคา
  • เวลาดูหนังโรง ควรจำว่ากระปุกน้ำอยู่ด้านไหน
  • ตัดผมวันพุธได้ ไม่บาป
  • คนไม่กินเนื้อไม่ได้แปลว่าเป็นดีเสมอไป
  • เวลาบ้วนน้ำยาลิสเตอรีน ออกจากปากให้หลับตาด้วย
  • ปูอัด มันทำจากปลา
  • กระเพาะปลามันทำมาจากหนังหมู
  • กินก๋วยเตี๋ยวจากตะเกียบไม้อร่อยกว่า
  • อย่าไปจ่ายตลาดเวลาหิว เราจะซื้อมาเยอะเกินจำเป็นเสมอ
  • ในโลกนี้จะชอบมีคนมาทักอยู่ 2 ประเภทเท่านั้น ประเภทแรก "อ้วนขึ้นนะ" กับประเภทที่ 2 "ผอมลงนะ" ไม่มีใครเข้ามาทักว่า "ปกติดีนี่ไปทำอะไรมา"
  • คนที่เอาหมวกตำรวจหรือชุดตำรวจแขวนไว้หลังรถมิใช่เพราะบ้านเขาไม่มีตู้ เขาไม่ได้ลืม เค้าแค่กลัวคนไม่รู้ว่าเขาทำอาชีพอะไร
  • คนที่มีรถทะเบียนเลขเดียวเรียงติดกันหลายๆตัว เป็นคนธรรมดาเหมือนกับเรา
  • คนที่มีความรู้มากๆ เขามักจะใช้ความรู้ขังจินตนาการ
  • ฟู่ฟ่าเดี๋ยวก็วาย เรียบง่ายอยู่ได้นาน
  • จงอย่าอิจฉาคนอื่น แต่จงใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา
  • เวลาที่เปิดหนังสือให้เพื่อนดูหน้าที่ตัวเองพูดถึงมักจะหาไม่เจอ
  • ขนมและน้ำในโรงหนัง จะแพงกว่าข้างนอก
  • ห้องน้ำผู้หญิง ผู้ชายเข้าไปดูเป็นพวกโรคจิต, ห้องน้ำผู้ชายผู้หญิงเข้ามาดูเป็นแม่บ้าน
วันนี้คิดเรื่องเขียนไม่ออก เลยใช้วิธีเอาของคนอื่นมาลง...อิๆ

Saturday, May 26, 2007

ชีวิตของนักศึกษา สุรา และมวลมิตร

หลายคนบอกว่ารู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาของผมที่เลี้ยงเหล้าพวกเขาในหลายค่ำคืน
ในระหว่างศึกษาที่คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ผมจึงบอกไปว่า
หาไม่....บางครั้งผมก็ตู้ด จนตูดขาด... (การตู้ด-หมายถึงการใช้ก้นถูไปตามพื้นเป็นทางยาว ในที่นี้หมายถึงดื่มกินโดยให้เพื่อนร่วมวงจ่ายเงิน เนื่องจากตนเองไม่มีกะตังค์)

และเดี๋ยวนี้ในบางค่ำคืนที่กระเป๋าแห้ง แต่หัวใจยังเรียกร้องถึงอบอวลแห่งสุรา...ผมก็ยังตู้ดอยู่ เมื่อมีโอกาสที่น้องๆ แวะมาเยี่ยมเยียน...
เพียงใจที่ต้องการแสดงถึงความรักต่อน้องที่นุ่งผ้าอย่างจริงจัง
ทุกกระเบียดนิ้วในซอกหลืบของหัวใจ...(ที่ลุ่มหลงแห่งบรรยากาศของความรัก น้ำใจ แลมิตรภาพ)
น้อยกว่านี้ (การตู้ด) ผมคงทำไม่ได้...

บางครั้งผมที่ซ่อนตัวในก้นทะเลแห่งอารมณ์ก็ร้องครวญออกมาว่า "ให้ข้าได้แสดงความรักต่อน้อง ๆ...โปรดนำพาข้าไปยังที่ที่พวกเขาอยู่"
พลัน...มอไซต์ YAMAHA Bell-100 คันเก่ามาก แต่ยังฟิต บึ่งออกจากที่ที่ควรหลับนอน(ได้แล้ว) ...
จากนั้นไม่นาน ผมก็รายรอบด้วยน้องๆ ที่รักกันยิ่งกว่าเสือที่รักป่า หญ้ารักดิน ...อบอุ่นยิ่งกว่าฟูกหมอน
เวลานั้นผมคิดได้ว่า..."ไม่น่าจะมีบรรยากาศใดดีกว่าการได้หยิบยื่นความรักให้แก่กัน"
...

Monday, May 21, 2007

Pirates of the Caribbean 3


ดูมา 2 ภาคแล้ว ประทับใจหนังเรื่องนี้เพราะ...

ชอบความแฟนตาซีของหนัง

ความกะล่อนของกับตันแจ็ค Jack Sparrow




ฝีมือดาบที่เก่งกาจ และความอ่อนไหวของหัวใจวิล เทอเน่อร์ Will Turner




ความเด็ดเดี่ยวของเอลิซาเบ็ท Elizabeth Swann
"พี่น้องโจรสลัดทั้งหลาย เราจะให้เขาเห็นเปลวแสงที่เปล่งประกายออกจากปืนของเรา
หัวใจอันเด็ดเดี่ยวของเรา"



กับตันบาร์โบซ่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งเรือแบล็คเพิร์ล Hector Barbossa



การมีชีวิตเป็นอมตะไม่ใช่เรื่องสำคัญ มันสำคัญที่การใช้ชีวิตอย่างมีสติ

ภาคนี้เอลิซาเบ็ธกลายเป็นราชาแห่งโจรสลัดไปซะแล้ว หลังจากถูกกับตันเซาเฟ็งนำตัวไปแต่กัปตันเซาเฟ็งถูกลูกหลงจากปืนของกองทัพแบ็คเก็ทตายไปซะก่อน จึงยกเหรียญ 8 เหลี่ยมให้กับเอลิซาเบ็ธ จากนั้นเอลิซาเบ็ธได้นำเรือไปที่อ่าวเรือแตกเพื่อประชุมเหล่าโจรสลัด



นอกจากนั้นหลังจากกับตันบาบอสซ่าได้ตัวแจ็คกลับคืนมาจากก้นทะเลแล้ว จากนั้นทั้งคู่ก็แย่งกันเป็นกับตันซะเอง



ตื่นตาตื่นใจกับฉากยิ่งใหญ่อลังการมาก หนังสนุกตลอดเวลา และแทรกด้วยอารมณ์ขัน และฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ เยอะมาก ส่วนตัวชอบประโยคที่เอลิซาเบ็ธพูดปลุกใจเหล่าโจรสลัดให้ลุกขึ้นสู่กับกองทัพของลอร์ดคัทเลอร์ แบ็คเก็ท

ฉากการยิงกันของเรือแบ็คเพิลกับเรือดัชแมนในวังน้ำวนที่มันส์มากๆ

ตอนจบวิล เทอเนอร์กลับกลายเป็นผู้มีชีวิตเป็นอมตะจากความช่วยเหลือของแจ็คในวินาทีสุดท้ายก่อนที่วิลจะตายจากดาบของเดวี่ โจนส์ วิลได้ช่วยพ่อของเขาให้พ้นจากคำสาป รวมทั้งได้แต่งงานกับเอลิซาเบ็ธ แต่เขาต้องนำวิญญาณคนตายในทะเลไปสู่สุขคติ และจะได้ขึ้นฝั่งเพียงวันเดียวทุกๆ 10 ปี ซึ่งเขาบอกว่า "วันเดียวก็คุ้มค่ากับการมาพบกับเอลิซาเบ็ธ"


หัวใจข้าเป็นของเจ้า

เจ้าจะแต่งงานกับข้ามั้ย




เอลิซาเบ็ธเป็นสาวพราวเสน่ห์ผู้เปี่ยมด้วยความเด็ดเดี่ยวและเข้มแข็ง

บาบอสซ่าผู้รักอิสระ เขาบอกกับแจ็คว่าไม่ควรห่วงเรื่องความตาย เพราะตายง่าย แต่การกลับมานั้นยากกว่า...ตอนสุดท้ายเขาได้เรือแบล็คเพิลกลับคืนมา

แจ็คนั้นเต็มไปด้วยสติปัญญา และการต่อรองอยู่ตลอดเวลา แต่เขาก็มากด้วยความสามารถสมเป็นกัปตัน และเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือเอลิซาเบ็ธในภาวะคับขัน เพียงแต่เขาเองก็ไม่ได้หลงไหลเอลิซาเบ็ธมากนัก เพราะเขารักตัวเองยิ่งกว่า แต่เอลิซาเบ็ธก็ประทับใจแจ็คอยู่หลายเรื่องนะ


และ "ทอทูการ์" เกาะนี้ี่มีจริงด้วยนะ...อิๆ นี่ๆ ตามแผนที่อยู่แถวๆ ไฮติ (Haiti)



ทอทูการ์จากภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ...อ้างอิงจาก...http://en.wikipedia.org/wiki/Tortuga




หนังเรื่องนี้กำหนดฉายวันที่ 24 พ.ค. 50 นี้ ประเดี๋ยวถ้าดูแล้วจะมาเขียนต่อครับผม...




ตอนนี้ไปดูตัวอย่างก่อนดีกว่าครับผม...เย้ !

Saturday, May 19, 2007

เมื่อผมทำจ้ำบ๊ะ...

เรื่องมีอยู่ว่า...

ฤดูร้อนของปีไหนจำไม่ได้แล้ว

ผมเบื่อการเล่นน้ำ...และคิดหารายได้ แบบที่ผมคิดออก (ตอนอายุเท่านั้น)

ตอนนั้นไม่ใช่ประถม แต่ราว ม.3-4

ร้อนๆ ...จะขายอะไรดี ถ้าไม่ใช่จ้ำบ๊ะ น้ำแข็งใส

ขายให้ใครก็ได้ที่ผ่านไปมา หรือแวะบ้านเรา

ผมคิดว่า...ผมต้องทำอะไรบ้าง โดยปรึกษาแม่บังเกิดเกล้า

แม่บอก "มันจะไปยากอะไร ก็ต้องมีแท่นใสน้ำแข็ง, ไปซื้อของมา มีน้ำแข็ง, และเครื่อง ได้แก่หลักๆ ก็มีน้ำหวาน, ลูกจาก, เฉาก๊วย, ฯลฯ" เดี๋ยวแม่จะทำน้ำเชื่อมให้

ผมจึงเริ่ม...

ผมไปงัดวงกบหน้าต่างที่อยู่หลังบ้านออกมา...

เฝ้าพากเพียรทำไอ้แท่นไสน้ำแข็ง

ทำด้วยไม้วงกบหน้าต่างที่พ่อทิ้งแล้ว

เลื่อยบากเข้าไป...สิ่วเจาะรูเป็นช่องให้น้ำแข็งร่วง

จิ๊กมีดบางๆ ขาวๆ มีดปอกผลไม้ที่แม่เบื่อแล้ว

เอามาลับๆๆๆๆๆๆ

แล้วเสียบลงไปในเนื้อไม้

เอ...มันยังไม่ถึงเรื่องน้ำแข็งเลย

เอาล่ะ...ต่อๆ

คราวนี้...ก็คิดว่า เราจะเอาอะไรใส่ในถ้วย

ก็คิดว่า...น่าจะต้องมี ข้าวโพด, เฉาก๊วย, ลูกจาก (ถามแม่ทั้งนั้น)...หรือทับทิมกรอบ

หรือขนุนหวานๆ

ดังนั้นจึงหาเท่าที่จะหาได้

เช่นมะพร้าวอ่อน, ตาล

ไรงี้...

แต่...น้ำแข็ง, ลูกจาก, เฉาก๊วยดำๆ ยังไงก็ต้องไปซื้ออะดิ

ซื้อที่ในอำเภอบัวใหญ่...

ห่างจากหมู่บ้าน ตั้ง 20 กม. แน่ะ...

อ่ะจ๊าก...ไกลชิบ

แต่...เราไม่ยอมแพ้...

เมื่อคิดแล้วเราก็ตื่นแต่เช้า ตั้งตี 5 แน่ะ ขับรถมอไซต์ของแม่...และขอตังแม่ด้วยล่ะ


อ่ะ ต่อนะ

แม่ก็ให้ตังค่าน้ำมัน, ค่าซื้อของง่ะ

คิดในใจว่า...ทำไมหนองบัวลาย (แต่ก่อนยังไม่เป็นอำเภอ) ทำไมของพวกนี้ไม่มีขายวะ

ช่ายๆ ลิงโลด

บึ่งไปแต่เช้าเรย...หาได้มีคนช่วยไม่

ทำเองคนเดียวม๊ดเลย

ซื้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ...น้ำแข็งมันหนัก๊ก หนักอะดิ

20 บาทได้ก้อนเบ้อเร่อ

น่าจะยาวซัก 60 ซ.ม.

หนาซัก 15 ซ.ม.

กว้างอีก ราว 1 ฟุต

ฮ่วย ไม่ได้สิ

ก็ใส่ถุงกระสอบ...(เตรียมไปด้วย)

วางตรงช่องหว่างขาน่ะแหละ

มอ.ไซง่ะ...นึกดูสิ

บางทีมันจะร่วงแหล่มิร่วงแหล่

ใช้เข่าประคองมัน

ตอนแรกก็ไม่เป็นไรหรอก....แต่

มันเย็นอะดิ...คริกๆ

ทั้งห่วงมันร่วง

ทั้งต้องขับรถง่ะ

รักกันมาก ประคองกันมาตลอดทาง

เจ้าน้ำแข็งที่รัก

นึกในใจว่า...เฮ้อ กูนะกู ไม่น่ารนหาที่ลำบากเลย

มันละลายช้ามากเลยนะ ไอ้ก้อนน้ำแข็งนี่

ทันใดนั้น...!!!!!

เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น...!

ณ. เบื้องหน้า

กำลังขับรถไปดีๆ

งูสิงทองตัวเท่าข้อมือเด็ก

เลื้อยผ่านหน้าอ่ะดิ...แถวบ้านยิ่งรกๆ

งูมันชอบออกมาตอนเช้าๆ

ต๊กกะใจ เบรค !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

รถล้มหัวคะมำ น้ำแข็งหักครึ่งเรย....

เจ็บแสนเจ็บ...ฮือๆๆๆๆ

ฮ่าๆๆๆๆๆ...คิดแล้วยังขำ

แต่ก็ถลอกปอกเปิก

เฉาก๊วยติดดิน, ลูกจากมีดินเกาะ

กระจาย...ฮ่าๆๆๆ

อ่ะนะ แถวนั้นมันท้ายหมู่บ้าน ก่อนถึงหมู่บ้าน...เจ้าน้ำแข็งมันไปดันปุ่มแตรรถ

เสียงแตรดังลั่น ปิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ทั้งตกใจ ทั้งเคียดให้งู

ปัดฝุ่นๆ เก็บของเท่าที่จะใช้ได้ บรรจงยัดน้ำแข็งมือเจ้ากรรมใส่ในกระสอบตามเดิม...

อ่ะแน่ะๆๆๆ

ฮึ่ม....ก็ไปถึงบ้านอย่างทุลักทุเล

กว่าจะทำใจได้....

แล้วต้องใช้เลื่อยหั่นๆๆๆๆๆเป็นชิ้นเล็กๆ

ให้ไสได้สะดวกง่ะ

จบแล้ว....โจ้กับน้ำแข็ง (จบแบบนี้แหละ...)

ยังมีเหตุการณ์บ้าๆ อีกเยอะที่จะทยอยนำมาเล่าให้ฟังอีก...หุๆ

ปาฏิหารข้อที่ 2 ของ อ.พนม ปีย์เจริญ

อย่ารอ...อย่าเดิน...
แต่จงวิ่งไปตามทางที่เราต้องการ
การวิ่งไป...
บ่งบอกถึงความมั่นใจในหนทางที่เราต้องการจะไป